ภาษีรถกระบะ 4 ประตูสูงกว่า 2 ประตูเพราะอะไร?

รถกระบะ 4 ประตูเสียภาษีแพงกว่ารถกระบะ 2 ประตูเนื่องจากกฎหมายการจัดเก็บภาษีในประเทศไทยจัดแบ่งประเภทของรถยนต์ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ภาษีแตกต่างกันระหว่างรถกระบะ 4 ประตูและ 2 ประตูมีดังนี้:

ประเภทการใช้งาน
รถกระบะ 4 ประตูมักถูกจัดว่าเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เนื่องจากมีห้องโดยสารที่กว้างขวางและที่นั่งหลายที่ ซึ่งทำให้ถูกนับเป็นรถที่เน้นการโดยสารเป็นหลัก ไม่ใช่รถเพื่อการพาณิชย์ ในขณะที่รถกระบะ 2 ประตูมักถูกจัดเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ (เช่น ใช้ขนสินค้า) ซึ่งในทางภาษีมีอัตราภาษีที่ต่ำกว่า

อัตราภาษีสรรพสามิต
รถกระบะ 4 ประตูหรือที่เรียกว่า "Double Cab" จะถูกคิดภาษีสรรพสามิตในอัตราที่สูงกว่า เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์นั่งที่ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งมักมีอัตราภาษีสรรพสามิตที่สูงกว่ารถกระบะ 2 ประตูซึ่งจัดเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์

อัตราภาษีตามความจุเครื่องยนต์
การจัดเก็บภาษียังขึ้นอยู่กับความจุเครื่องยนต์ (ซีซี) ของรถยนต์อีกด้วย รถกระบะ 4 ประตูที่มีเครื่องยนต์ใหญ่จะเสียภาษีมากขึ้นตามความจุเครื่องยนต์ โดยรถกระบะ 2 ประตูที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กมักจะเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า

ความสะดวกสบายและการใช้งาน
รถกระบะ 4 ประตูถูกมองว่าให้ความสะดวกสบายในการขนส่งผู้โดยสารได้หลายคน ทำให้มีการใช้งานคล้ายกับรถยนต์นั่งทั่วไป ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้มีอัตราภาษีที่สูงกว่า ขณะที่รถกระบะ 2 ประตูถูกออกแบบมาเพื่อการขนส่งสินค้า ทำให้มีการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ลดหย่อนได้

จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้รถกระบะ 4 ประตูต้องเสียภาษีแพงกว่า 2 ประตู เนื่องจากมีการจัดประเภทและเก็บภาษีแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งานและวัตถุประสงค์ของการใช้รถ