ไฟไหม้บ้านกลางดึก ส่งผลให้ยายและหลานเสียชีวิต ตร.เร่งสืบสวนหาสาเหตุ

เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในชุมชนแออัด ซอยบางโปรง 4 อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 20 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 01.45 น. เพลิงได้ลุกไหม้จากบ้านเรือนไม้สองชั้นหลังหนึ่งในบริเวณกลางซอย ก่อนลามไปยังบ้านเรือนใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้านที่พยายามหนีออกจากบ้านของตนในช่วงเวลานั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับการแจ้งเหตุและระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงมาให้ความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงในการควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ เนื่องจากบ้านในบริเวณนี้มีโครงสร้างเป็นไม้และติดกันอย่างหนาแน่น ทำให้เพลิงลุกลามได้ง่าย ประกอบกับลมแรงในช่วงกลางดึก ส่งผลให้ไฟกระจายไปในวงกว้าง นอกจากนั้นยังมีเสียงระเบิดเป็นระยะจากสิ่งของภายในบ้าน ทำให้การเข้าควบคุมไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก

หลังจากควบคุมเพลิงได้สำเร็จ พบว่าเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงสูงวัยอายุประมาณ 70 ปี และเด็กหญิงอายุ 11 ปี ซึ่งทั้งสองติดอยู่ภายในบ้านต้นเพลิง เพื่อนบ้านพยายามเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สามารถฝ่าเปลวเพลิงที่ลุกไหม้รุนแรงออกมาได้ ทำให้ทั้งสองรายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันหลายราย โดยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา

นางสาวนฤมล หนึ่งในชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเธอได้ยินเสียงระเบิดและเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบตื่นขึ้นมาและเห็นเปลวเพลิงลุกท่วมจากชั้นสองของบ้านต้นเพลิง เธอและเพื่อนบ้านรีบช่วยกันดับไฟในเบื้องต้น แต่ไม่สามารถควบคุมได้เพราะไฟลุกลามรวดเร็วมาก

นายสมศักดิ์ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงประจำเขตสมุทรปราการ กล่าวว่า การควบคุมไฟในครั้งนี้ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากตัวบ้านทำจากไม้และพื้นที่ชุมชนมีบ้านเรือนอยู่ติดกันเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้รถดับเพลิงหลายคันและใช้เวลานานกว่าปกติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ โดยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากอะไร แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากบ้านต้นเพลิงมีโครงสร้างเก่าและมีการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายอำเภอเมืองสมุทรปราการได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน ปัจจุบันมีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้กว่า 7 หลังคาเรือน ซึ่งหลายครอบครัวสูญเสียทั้งบ้านและทรัพย์สินทั้งหมด

ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรกาชาดไทยได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ต้องสูญเสียบ้านเรือน และได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นและอาหารให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายอย่างละเอียดเพื่อหามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม ทั้งด้านการฟื้นฟูบ้านเรือนและการเยียวยาจิตใจของผู้ประสบภัย

ชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนต่างพากันเรียกร้องให้มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าและการจัดการด้านความปลอดภัยภายในชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป