realme เปิดเกมรุกตลาดสมาร์ทโฟนราคาประหยัดในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว realme Note 70 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ผ่านช่องทาง Shopee และ realme Official Store โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่การมอบความคุ้มค่าเกินราคา ทั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน, ตัวเครื่องที่ผ่านการออกแบบด้วยวัสดุ ArmorShell™ แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก, ดีไซน์บางเฉียบเพียง 7.94 มิลลิเมตร ทำให้แม้จะใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่แต่ยังคงความสะดวกในการพกพา รวมถึงลำโพงที่ถูกปรับแต่งใหม่ให้มีเสียงดังชัดเจนเพิ่มขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนหน้า ทั้งหมดนี้ถูกจัดมาในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เริ่มต้นเพียง 2,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 4GB RAM + 64GB ROM

ในแง่ของการออกแบบ realme Note 70 มาพร้อมตัวเลือกสองสีที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโทน Beach Gold สีทองประกายทราย ที่ให้ภาพลักษณ์สดใสหรูหรา หรือ Obsidian Black สีดำคลาสสิกที่เน้นความเรียบเท่เหนือกาลเวลา โดย realme ยังเสริมความคุ้มค่าด้วยโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อในช่วงแรก รับฟรีทันที realme Special Bag มูลค่า 399 บาท

การมาของ realme Note 70 นับเป็นการเดินเกมสำคัญในตลาดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นและกลางในปีนี้ เพราะจุดขายหลักของรุ่นนี้ไม่ใช่เพียง “ราคาถูก” แต่เป็น “ราคาคุ้มค่า” ที่มาพร้อมสเปกและความทนทานเหนือกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน ซึ่งทำให้ realme มีโอกาสเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่เน้นการใช้งานจริง เช่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมถึงผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนเครื่องสำรองที่ใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างวัน

เมื่อพิจารณาจากทิศทางตลาดในปัจจุบัน realme Note 70 จะต้องแข่งขันโดยตรงกับสมาร์ทโฟนจากค่ายใหญ่ที่เน้นการเจาะกลุ่มราคาต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่ว่าจะเป็น Redmi, Infinix หรือแม้แต่ Samsung ในตระกูล A Series แต่สิ่งที่ทำให้ realme มีแต้มต่อคือการเลือกชูจุดแข็งด้านแบตเตอรี่ที่อึดกว่าคู่แข่ง, ดีไซน์ที่ยังคงความบางเบา และการสร้างความเชื่อมั่นด้านความทนทานของตัวเครื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้อาจทำให้ Note 70 กลายเป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตลาดระดับเริ่มต้นช่วงครึ่งหลังของปี 2568

สรุปแล้ว realme Note 70 ไม่ได้เป็นเพียงสมาร์ทโฟนราคาประหยัดทั่วไป แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทต้องการวางตำแหน่งตนเองในฐานะ “ผู้นำด้านความคุ้มค่า” ที่ไม่ลดคุณภาพการใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์ และด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึง 3,000 บาท ทำให้รุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับผู้ใช้ชาวไทยในปีนี้