ราคาข้าวในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยสูงเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สะท้อนภาวะต้นทุนชีวิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อในประเทศให้เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลของผู้บริโภคและแรงกดดันต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)

จากรายงานของกระทรวงกิจการภายในของญี่ปุ่น ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสด เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สูงขึ้นจาก 3.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานที่ไม่รวมทั้งอาหารสดและพลังงาน ก็เร่งขึ้นเป็น 2.9% จาก 2.6% ในเดือนก่อนหน้า โดยยังคงสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ที่ BoJ กำหนดมาเกือบ 3 ปีติดต่อกัน

แม้เงินเฟ้อโดยรวมจะชะลอลงเล็กน้อยจาก 3.7% เหลือ 3.6% ในเดือนมีนาคม แต่การปรับขึ้นของราคาข้าวซึ่งถือเป็นอาหารหลักของประชากรญี่ปุ่น ได้กลายเป็นประเด็นร้อน เนื่องจากข้าวเป็นสินค้าที่มีบทบาทสูงต่อดัชนีค่าครองชีพของครัวเรือนทั่วไป โดยราคาข้าวในตลาดภายในประเทศบางประเภทได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100% จากปีที่แล้ว ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งภัยแล้งในฤดูกาลเพาะปลูกก่อนหน้า ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และปัญหาด้านซัพพลายในระดับภูมิภาค

รัฐบาลญี่ปุ่นจึงตัดสินใจเร่งระบายข้าวจากคลังสำรองฉุกเฉินเข้าสู่ตลาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และชะลอแนวโน้มราคาไม่ให้พุ่งสูงเกินไป โดยมาตรการนี้ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงเกษตรฯ และผู้ประกอบการค้าส่งข้าวรายใหญ่ เพื่อเพิ่มปริมาณข้าวในตลาดโดยเร็วที่สุด

แรงกดดันต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น
การเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ตลาดเริ่มจับตามองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง หลังจากที่ได้ประกาศยุตินโยบายดอกเบี้ยติดลบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์เชื่อว่า ความต่อเนื่องของเงินเฟ้อที่อยู่เหนือเป้าหมาย บวกกับราคาสินค้าพื้นฐานอย่างข้าวและอาหารอื่นๆ ที่พุ่งสูงขึ้น อาจผลักดันให้ BoJ ต้องเร่งตัดสินใจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในเวทีเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อาจทำให้ BoJ ยังไม่รีบตัดสินใจในระยะสั้น และยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดและผู้บริโภคในประเทศอย่างใกล้ชิด

ผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจ
ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักจากค่าครองชีพที่พุ่งสูง ขณะที่รายได้ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่ทันกับเงินเฟ้อ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนรายได้ปานกลางถึงต่ำ ที่เริ่มต้องลดการใช้จ่ายในหมวดอาหารและของจำเป็น

นอกจากนี้ ภาคธุรกิจโดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหารและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร กำลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้าวซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเมนูญี่ปุ่นแทบทุกประเภท หลายร้านเริ่มพิจารณาขึ้นราคาเมนู หรือเปลี่ยนวัตถุดิบเป็นทางเลือกอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า

สถานการณ์ดังกล่าวไม่เพียงเป็นแรงกดดันเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะมีสัญญาณฟื้นตัวในบางด้าน แต่ราคาข้าวที่พุ่งสูงเกือบเท่าตัว และแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่รัฐบาลและธนาคารกลางต้องเร่งจัดการ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศ และป้องกันไม่ให้วิกฤตค่าครองชีพลุกลามไปสู่ภาคส่วนอื่นในระบบเศรษฐกิจ

ที่มา : channelnewsasia