วันที่ 16 เมษายน 2568 – ประเทศไทยยังคงเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีแนวโน้มอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพอากาศในวันนี้และ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร้อนอบอ้าวเกือบทั่วประเทศ ประกอบกับยังมีสภาพอากาศแปรปรวนในบางพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจเกิดฟ้าผ่าในบางจุด

กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า อิทธิพลของมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่เคยปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ กำลังอ่อนกำลังลง ขณะเดียวกันลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ตะวันออกที่พัดปกคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังคงต้องระวังสภาพอากาศรุนแรงเฉียบพลัน

หลายจังหวัดมีแนวโน้มจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ในภาคเหนือ และจังหวัดในภาคกลางอย่างกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร รวมไปถึงพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่มั่นคง เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุจากลมแรงหรือฟ้าผ่าได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนยังอยู่ในบรรยากาศของเทศกาลสงกรานต์ ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งจำนวนมาก

ในส่วนของเกษตรกร หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาแนะนำให้เฝ้าระวังและเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงดูแลสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากสภาพอากาศที่รุนแรงและแปรปรวน พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนทั่วประเทศดูแลสุขภาพให้ดี เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและโรคที่มากับฝน

ในขณะที่พื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบจากลมตะวันออกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรง ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัด ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก โดยเฉพาะจังหวัดในแนวชายฝั่งอย่างประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช รวมถึงพังงา ภูเก็ต และกระบี่ ที่มีฝนฟ้าคะนองในอัตราสูงถึงร้อยละ 60-70 ของพื้นที่

คลื่นลมในทะเลทั้งอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1 เมตร แต่ในบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนอง คลื่นอาจสูงเกินกว่า 2 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ โดยกรมอุตุฯ เตือนชาวประมงและผู้ที่เดินเรือในช่วงนี้ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และติดตามประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด

ด้านคุณภาพอากาศ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่มีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งเคยมีปัญหาฝุ่นละอองสะสมระดับสูงในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่าการสะสมฝุ่นละอองและหมอกควันอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มคงที่ เนื่องจากมีฝนตกในบางพื้นที่ ช่วยชะล้างฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศ

ทั้งนี้ สภาพอากาศที่ร้อนจัดสลับฝนในช่วงเดือนเมษายนยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยประชาชนควรหมั่นตรวจสอบพยากรณ์อากาศรายวัน และเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ