ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีได้จับกุมรถบรรทุกพ่วงคันหนึ่งที่บรรทุกทรายโดยไม่ปิดผ้าใบคลุม และคาดว่ามีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่กิโลเมตรที่ 17 ถนนทางหลวงหมายเลข 37 ขาออก ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจสอบพบว่าคนขับไม่มีใบชั่งน้ำหนัก ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการยืนยันว่ายานพาหนะไม่ได้บรรทุกเกินกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือให้นำรถไปชั่งน้ำหนักที่เครื่องชั่งเอกชนในบริเวณใกล้เคียง และผลตรวจพบว่ารถบรรทุกพ่วงคันนี้มีน้ำหนักรวมถึง 74,710 กิโลกรัม ซึ่งเกินจากน้ำหนักที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 50,500 กิโลกรัม ถึง 24,210 กิโลกรัม

การบรรทุกน้ำหนักเกินในครั้งนี้ถือเป็นการกระทำผิดที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของถนน เนื่องจากน้ำหนักที่มากเกินไปจะเพิ่มแรงกดทับที่พื้นผิวถนน ทำให้ถนนชำรุดเสียหายได้เร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการที่รถอาจจะมีความไม่เสถียรจากน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน

หลังจากตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายสมศักดิ์ คนขับรถบรรทุกในข้อหาการใช้ยานพาหนะบรรทุกเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด และส่งตัวไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรชะอำ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีได้กล่าวเตือนผู้ประกอบการขนส่งและผู้ขับขี่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายการขนส่งอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องของการบรรทุกน้ำหนักที่เกินกำหนด และการปิดคลุมผ้าใบเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของวัสดุจากการขนส่ง ซึ่งไม่เพียงแต่จะรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ในส่วนของการตรวจสอบนั้น ทางตำรวจทางหลวงเพชรบุรีได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบรถบรรทุกเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายที่อาจส่งผลเสียต่อโครงสร้างของถนนและความปลอดภัยของผู้ใช้ท้องถนน ทุกคนสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมผิดกฎหมายของรถบรรทุกที่อาจบรรทุกเกินหรือมีสิ่งผิดปกติได้ที่สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป