เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาและเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยร่าง พ.ร.บ.นี้มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ โดยเน้นการสร้างธุรกิจสถานบันเทิงที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน พร้อมกับการควบคุมผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในเดือนมกราคม 2568 โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอร่างและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและปรับแก้เนื้อหาต่าง ๆ ซึ่งในการพิจารณาครั้งล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำการปรับปรุงเนื้อหาและเพิ่มข้อกำหนดบางประเด็นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ในส่วนที่มีการแก้ไขสำคัญได้แก่:

  1. การรักษาการตามกฎหมาย – เดิมกำหนดให้มีเพียงนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการ แต่การปรับแก้ครั้งนี้ให้ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันทำหน้าที่นี้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. เพิ่มอำนาจของคณะกรรมการนโยบาย – คณะกรรมการนโยบายจะมีอำนาจในการพิจารณานโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น การกำหนดพื้นที่ตั้งสถานบันเทิง การร่วมลงทุนกับเอกชน และการควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในสถานบันเทิง
  3. การแต่งตั้งผู้อำนวยการ – คณะกรรมการนโยบายจะทำการแต่งตั้งผู้อำนวยการโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก ครม. เหมือนในร่างเดิม
  4. การกำหนดกรอบนโยบาย – การกำหนดนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ของสถานบันเทิงครบวงจร ต้องมีการพิจารณาให้ละเอียด เช่น การกำหนดพื้นที่ การร่วมลงทุน และการควบคุมกิจกรรมในธุรกิจนั้น ๆ

ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.นี้ยังมีการเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุมกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุให้พื้นที่สำหรับกาสิโนต้องไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมดในสถานบันเทิง เพื่อให้เน้นการลงทุนในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการควบคุมการฟอกเงินในธุรกิจนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ร่าง พ.ร.บ.นี้ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนมาแล้วถึง 3 ครั้ง และในครั้งล่าสุด (28 ก.พ. – 14 มี.ค. 2568) มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 80 ของผู้ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเห็นด้วยกับการดำเนินการตามร่าง พ.ร.บ.นี้ โดยแสดงความคิดเห็นในเชิงสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวและการลงทุนเพื่อเศรษฐกิจ

หลังจากที่ ครม.ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นี้แล้ว จะมีการส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป โดยจะพิจารณาในวาระรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณารายละเอียดและแปรญัตติในระยะเวลาที่สภาฯ กำหนด

รัฐบาลยืนยันว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเน้นการลงทุนในด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะไม่เน้นในเรื่องของการดำเนินการเกี่ยวกับกาสิโนที่มีสัดส่วนไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้การพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจรเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดผลกระทบต่อสังคม