ประเทศไทยเผชิญอากาศร้อนจัด พร้อมพายุฤดูร้อนบางพื้นที่ เตือนประชาชนรับมือความแปรปรวนของสภาพอากาศ

วันที่ 27 มีนาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ซึ่งเป็นผลมาจากความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณดังกล่าว ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุม ส่งผลให้บางพื้นที่มีฝนตก โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน

เตือนภัยอากาศร้อนและพายุฤดูร้อน

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอันตรายจากอากาศร้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานและดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 29 มีนาคม - 1 เมษายน 2568 คาดว่าจะมีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมเวียดนามตอนบน ลาวตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งจะทำให้เกิดพายุฤดูร้อน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งหรือใกล้ต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

อิทธิพลของลมตะวันออกเฉียงใต้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย

สำหรับภาคใต้ ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีลักษณะอ่อน ทำให้ปริมาณฝนลดลง โดยบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และอาจสูงกว่า 1 เมตรในพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง ซึ่งส่งผลต่อการเดินเรือ ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงนี้

ค่าฝุ่นละอองยังคงสูงจากอากาศนิ่ง

ในส่วนของสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควัน พบว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีการสะสมของฝุ่นละอองในระดับสูง เนื่องจากสภาพอากาศนิ่งและลมพัดอ่อนลง ส่งผลให้มลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ ขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน

พยากรณ์อากาศรายภาค

• ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน มีฟ้าหลัว อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดเลย บึงกาฬ หนองบัวลำภู นครพนม ชัยภูมิ และนครราชสีมา
• ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฟ้าหลัวและฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี และราชบุรี
• ภาคตะวันออก อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส คลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
• ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส คลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
• ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในพื้นที่ฝนฟ้าคะนอง
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน มีฟ้าหลัวและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

คำแนะนำสำหรับประชาชน

กรมอุตุนิยมวิทยาแนะนำให้ประชาชนเตรียมรับมือกับอากาศร้อนที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแดดจัดเป็นเวลานาน รวมถึงติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งอาจเกิดพายุฤดูร้อนและสภาพอากาศแปรปรวนได้ในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน