ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดในวันนี้ (11 มีนาคม 2568) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ท่ามกลางแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq 100 ที่ทำผลงานแย่ที่สุดในรอบกว่า 3 ปี นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรและแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเผชิญกับแรงขายตามมา

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในภูมิภาค โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวลดลงมากกว่า 2% ขณะที่ดัชนี Topix ปรับตัวลดลง 1.57% นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้ปรับลดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สำหรับไตรมาสที่ 4 ลงเหลือ 2.2% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และลดลงจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 2.8%

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลด้านเศรษฐกิจ โดยดัชนี Kospi ปรับตัวลดลง 1.78% ส่วนดัชนี Kosdaq ซึ่งเป็นดัชนีที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีและบริษัทขนาดเล็ก ปรับตัวลดลงมากกว่า 2.11%

ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดตลาดร่วงลงแรง โดยดัชนี ฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) ปรับตัวลดลง 2.14% หรือ -508.63 จุด มาอยู่ที่ระดับ 23,274.86 จุด

แรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐ

เมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเร่งให้เศรษฐกิจชะลอตัว ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.7% และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งได้รับแรงกดดันจากหุ้นเทคโนโลยี ปรับตัวลดลงถึง 4% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ด้านดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับตัวลดลง 2.08% ปิดตลาดที่ระดับ 41,911.71 จุด

นักลงทุนในตลาดเอเชียจับตานโยบายเศรษฐกิจและมาตรการทางการเงินของประเทศมหาอำนาจอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องในตลาดหุ้นทั่วโลก