สถานการณ์ความรุนแรงในโคลอมเบียทวีความตึงเครียดขึ้น เมื่อกองทัพปลดแอกแห่งชาติ (ELN) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธฝ่ายซ้าย ประกาศพร้อมตอบโต้การโจมตีของรัฐบาล หลังจากที่ประธานาธิบดี กุสตาโว เปโตร สั่งส่งกำลังทหารกว่า 10,000 นายเข้าสู่พื้นที่คาตาตุมโบ ใกล้พรมแดนเวเนซุเอลา เพื่อตอบโต้เหตุปะทะรุนแรงระหว่าง ELN และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ซึ่งทำให้ประชาชนต้องอพยพกว่า 56,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 76 ราย

รัฐบาลโคลอมเบียพยายามผลักดันแผน "สันติภาพเบ็ดเสร็จ" เพื่อยุติสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมากว่า 60 ปี แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลง เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธต่างๆ อาศัยช่วงเวลานี้ในการขยายอิทธิพลและเสริมกำลัง ELN ซึ่งมีนักรบหลายพันนาย ยืนยันว่าจะไม่ยอมจำนนและพร้อมทำสงคราม หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้กำลังทหาร

ริคาร์โด และ ซิลวานา เกร์เรโร สองแกนนำระดับสูงของ ELN ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ที่ฐานที่มั่นลับ ท่ามกลางการคุ้มกันของนักรบติดอาวุธกว่า 30 นาย ย้ำว่ากลุ่มของพวกเขาไม่เกรงกลัวรัฐบาล และพร้อมตอบโต้หากถูกโจมตี โดยริคาร์โดประกาศชัดว่า "รัฐบาลเปโตรประกาศสงครามกับเรา เราไม่กลัว" ขณะที่ซิลวานา เกร์เรโร ซึ่งมีค่าหัวจากรัฐบาลโคลอมเบีย 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 900,000 บาท ปฏิเสธว่า ELN ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดโดยตรง แต่ยอมรับว่ากลุ่มของเธอเรียกเก็บ "ภาษี" จากผู้ผลิตโคเคนในพื้นที่

นักวิเคราะห์มองว่าการปะทะระหว่าง ELN และกลุ่ม 33rd Front เป็นการแย่งชิงอำนาจและเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากโคลอมเบียสู่เวเนซุเอลา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเครือข่ายการค้ายาเสพติดไปยังตลาดโลก โดยรัฐบาลโคลอมเบียเชื่อว่า ELN มีความสัมพันธ์กับกลุ่มพันธมิตรซีนาโลอา (Sinaloa Cartel) ของเม็กซิโก ขณะที่รายงานขององค์การสหประชาชาติระบุว่าพื้นที่เพาะปลูกโคคาในโคลอมเบียเพิ่มขึ้นกว่า 420% ตั้งแต่ปี 2555 สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ

แม้ ELN จะยืนยันว่าพวกเขาพร้อมเจรจากับรัฐบาล แต่สถานการณ์กลับเต็มไปด้วยความรุนแรง โดยซิลวานา เกร์เรโร คาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้ จะเกิดการโจมตีตอบโต้ที่รุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่คาตาตุมโบ ขณะที่ประชาชนกังวลว่าสงครามกลางเมืองอาจปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มกองกำลังปฏิวัติโคลอมเบีย (FARC) ได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลเมื่อปี 2559 แต่กลับพบว่ากลุ่มติดอาวุธใหม่ๆ กลับแข็งแกร่งขึ้น และสถานการณ์เลวร้ายลง

รัฐบาลโคลอมเบียต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรักษาสันติภาพและควบคุมกลุ่มติดอาวุธที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ ELN ยังคงยืนหยัดต่อต้าน และประกาศว่า "รัฐต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่เปลี่ยน สงครามก็จะดำเนินต่อไป" สงครามที่ดำเนินมากว่า 60 ปี คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 1.1 ล้านคน และยังไม่มีสัญญาณว่าจะยุติลงในเร็ววันนี้

ที่มา : yahoo