สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในเดือนมีนาคม 2025 ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ โดยเฉพาะ "สงครามการค้ารอบใหม่" ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงหลักที่นักวิเคราะห์ทั่วโลกจับตามอง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวมยังคงไม่ชัดเจน เนื่องจากการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้าของประเทศต่างๆ ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น

นอกจากนี้ ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลาดการเงินโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง

ในส่วนของราคาน้ำมัน มีการปรับลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผ่อนคลายลง ประกอบกับความต้องการน้ำมันที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่อุปทานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรายใหญ่ ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา

เศรษฐกิจไทยปี 2025 คาดการณ์ชะลอตัว เงินเฟ้อต่ำ ดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มลดลง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2025 โดยคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ 2.4% ลดลงเล็กน้อยจาก 2.5% ในปี 2024 สาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ในด้านอัตราเงินเฟ้อ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยในปี 2025 จะอยู่ที่ 0.7% ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศ โดยในเดือนมกราคม 2025 อัตราเงินเฟ้อของไทยปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐาน (base effect) และราคาสินค้าบางประเภทที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

ในส่วนของนโยบายการเงิน คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหนึ่งครั้งภายในปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดลงสู่ระดับ 2.00% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคธุรกิจและการบริโภคในประเทศ

จับตาความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจไทยและโลกในช่วงครึ่งปีแรก 2025

แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังสามารถขยายตัวได้ในปี 2025 แต่การเติบโตที่ชะลอลงแสดงให้เห็นถึงความท้าทายหลายประการ ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ นโยบายเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า การเคลื่อนไหวของค่าเงิน อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการใช้จ่ายในประเทศ

นักวิเคราะห์แนะนำให้ภาคธุรกิจและนักลงทุนติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และเตรียมกลยุทธ์รองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจถูกนำมาใช้เพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี 2025