Whoscall เผยสถิติปี 2567 สายมิจฉาชีพและ SMS หลอกลวงพุ่ง 168 ล้านครั้ง สูงสุดในรอบ 5 ปี
วันที่โพสต์: 24 กุมภาพันธ์ 2568 12:17:00 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
Whoscall เปิดเผยรายงานประจำปี 2567 พบการโทรและส่งข้อความ SMS หลอกลวงในประเทศไทยสูงถึง 168 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 112% จากปีก่อน และนับเป็นจำนวนที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างกลลวงที่ซับซ้อนขึ้น
นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก ประเทศไทย เปิดเผยว่า การหลอกลวงทางโทรศัพท์และ SMS ในปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีสายโทรศัพท์มิจฉาชีพ 38 ล้านครั้ง เพิ่มจาก 20.8 ล้านครั้งในปี 2566 ขณะที่ข้อความ SMS หลอกลวงพุ่งสูงถึง 130 ล้านครั้ง จาก 58.3 ล้านครั้งเมื่อปีก่อน

มิจฉาชีพพัฒนากลยุทธ์ ใช้ AI หลอกลวงซับซ้อนขึ้น
ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพหันมาใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็นการปลอมตัวเป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การเสนอสินเชื่อปลอม การเรียกเก็บเงินที่ไม่มีอยู่จริง หรือการส่งลิงก์อันตรายที่แฝงมัลแวร์เพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัว
Whoscall ระบุว่ากลโกงที่พบมากที่สุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่

- การหลอกขายสินค้าปลอมและบริการที่ไม่มีอยู่จริง
- การปลอมแปลงเป็นหน่วยงานทางการ เช่น ธนาคาร หน่วยงานรัฐ หรือบริษัทเอกชน
- การส่ง SMS หลอกลวงเกี่ยวกับการกู้เงินและทวงหนี้
- การใช้ลิงก์ฟิชชิงเพื่อขโมยข้อมูลทางการเงินและข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลรั่วไหลยังเป็นปัญหาใหญ่ คนไทย 41% เสี่ยงตกเป็นเหยื่อ
นอกเหนือจากการโทรและ SMS หลอกลวงแล้ว Whoscall ยังเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทยถึง 41% รั่วไหลไปยังแหล่งที่ไม่ปลอดภัย เช่น ดาร์กเว็บและดีพเว็บ โดยในบรรดาข้อมูลที่รั่วไหล 97% เป็นอีเมล และ 88% เป็นหมายเลขโทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เช่น วันเดือนปีเกิด ชื่อ-นามสกุล และรหัสผ่าน ที่อาจตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพ

Whoscall เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เสริมเกราะป้องกันภัยไซเบอร์
เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง Whoscall ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง อาทิ
- Web Checker ตรวจสอบความปลอดภัยของลิงก์ก่อนที่ผู้ใช้จะกดเข้าไป
- ID Security ช่วยแจ้งเตือนเมื่อพบข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อาจรั่วไหล
- Smart SMS Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถกรองข้อความ SMS อันตรายได้แบบเรียลไทม์
- Whoscall Verified Business Number (VBN) สำหรับธุรกิจที่ต้องการยืนยันตัวตน ป้องกันการปลอมแปลงหมายเลขโทรศัพท์
ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหา
Whoscall ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาแนวทางป้องกันและลดจำนวนการฉ้อโกงในอนาคต พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่น่าสงสัย ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ก่อนรับสาย และติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถช่วยกรองเบอร์โทรศัพท์และ SMS ได้
ปัญหาการหลอกลวงทางดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้ใช้ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ Whoscall ยังคงเดินหน้าปรับปรุงระบบเพื่อต่อสู้กับมิจฉาชีพ และช่วยปกป้องผู้ใช้จากภัยไซเบอร์ในอนาคต
แท็ก: Whoscall SMSหลอกลวง