วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และธนาคารกรุงไทย เพื่อเปิดให้บริการช่องทางการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และลดภาระการเดินทางให้กับผู้ประกันตนในยุคดิจิทัล

ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ได้กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการตอบโจทย์สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปและสอดคล้องกับพฤติกรรมของประชาชนในปัจจุบันที่หันมาใช้เทคโนโลยีและช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยการชำระเงินสมทบผ่านแอป "เป๋าตัง" จะช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคม อีกทั้งยังลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางและใช้เวลาในการดำเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้างที่ออกจากงานแล้ว หรือผู้ที่ทำงานในภาคเกษตรกรรม สามารถชำระเงินสมทบสำหรับงวดปัจจุบันและสามารถชำระเงินสมทบย้อนหลังได้เช่นกัน รวมถึงสามารถจ่ายเงินเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนดหากมีการค้างชำระไว้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงการชำระเงินสมทบผ่านช่องทางดิจิทัลอื่น ๆ เช่น Krungthai NEXT, BAAC Mobile ของธนาคาร ธ.ก.ส., Bangkok Bank Mobile Banking, และ Shopee Pay

ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระหรือประกอบธุรกิจส่วนตัวสามารถชำระเงินสมทบได้ทั้งสำหรับงวดปัจจุบันและล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 12 เดือน รวมถึงสามารถชำระเงินสมทบได้ไม่เกิน 13 เดือนในกรณีที่ต้องการปรับยอดชำระให้ครบถ้วนในแต่ละปี ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถบริหารการเงินได้ตามสะดวกและยืดหยุ่น

การใช้ช่องทางดิจิทัลในการชำระเงินสมทบได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกันตน โดยข้อมูลจากปี 2567 ระบุว่า 95.53% ของผู้ประกันตน ม.39 เลือกใช้บริการชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ผู้ประกันตน ม.40 ใช้ช่องทางดิจิทัลถึง 86.67% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมในการใช้บริการทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงแผนการในอนาคตที่จะเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน SSO+ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ โดยแอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ครบวงจรและสะดวกมากยิ่งขึ้น

ด้านนางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment Master Plan ซึ่งมุ่งยกระดับการให้บริการภาครัฐให้สะดวกและรวดเร็ว ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยการใช้ช่องทางไร้เงินสดจะช่วยลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรมและลดค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชน

การเปิดช่องทางการชำระเงินสมทบผ่านแอป "เป๋าตัง" ในวันนี้ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มช่องทางที่ช่วยให้การบริหารจัดการการเงินส่วนตัวของประชาชนสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีความยืดหยุ่นในการชำระเงิน และกระทรวงแรงงานยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์สูงสุดจากบริการของรัฐ