เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่จังหวัดตาก ว่าหลังจากที่รัฐบาลไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้หยุดส่งกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศเมียนมา ตามมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนชาวเมียนมาในเมืองเมียวดีได้รับผลกระทบอย่างหนัก

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในวันพรุ่งนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2568) เวลาประมาณ 08.30 น. มีกลุ่มประชาชนชาวเมียนมาและผู้ได้รับผลกระทบจากการตัดกระแสไฟฟ้าและงดส่งน้ำมัน เตรียมรวมตัวชุมนุมที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 (ฝั่งเมียนมา) เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาประสานงานกับรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เส้นทางและกำหนดการชุมนุม
ผู้ชุมนุมจะเริ่มรวมตัวกันที่หน้าโรงพยาบาลเมียวดี จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 โดยเริ่มต้นการชุมนุมเวลา 09.00 น. และคาดว่าจะสิ้นสุดในเวลา 12.00 น.

สำหรับเส้นทางการเดินขบวน ผู้ชุมนุมจะออกจากสวนสาธารณะเมียะสั่นที่ หมู่ 4 เมืองเมียวดี ผ่านถนนโรงพยาบาล ถนนบะหยินหน่อง มุ่งหน้าไปเชิงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ก่อนเคลื่อนขบวนต่อไปยังเชิงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 โดยใช้ถนนเมียะยะตะหน่า ถนนโบ๋โช๊ก ถนนชิ้ดจีเย และแยกทางเหย่ปู่

แกนนำชุมนุมยื่นข้อเรียกร้อง
การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำสำคัญ ได้แก่ นายอูตู่เหร่งมินทุน และ นายอูจ่อจ่อ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ได้รับผลกระทบ โดยทั้งสองจะเป็นผู้ปราศรัยหลักในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ คาดว่ามีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 3,000 คน

กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้รัฐบาลเมียนมาดำเนินการเจรจากับรัฐบาลไทยโดยด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่าทางการเมียนมาจะดำเนินการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างไร ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองประเทศยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

หากมีความคืบหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ จะรายงานให้ทราบต่อไป