ตลาดน้ำมันโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐ

ตลาดน้ำมันดิบโลกวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดของปี โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 0.4% มาปิดที่ 76.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านน้ำมัน WTI ของสหรัฐก็ดีดตัวขึ้น 0.2% แตะระดับ 72.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รอยเตอร์สรายงาน

ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาด หลังอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้า 25% กับแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อกดดันให้สกัดกั้นการลักลอบขนสารเสพติดเฟนทานิลเข้าสหรัฐ โดยอาจมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์นี้

"ตลาดเริ่มวิตกกังวลเมื่อใกล้ถึงเส้นตาย" ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group กล่าว ขณะที่โทนี่ ซิคามอร์ จาก IG มองว่าผู้ค้าได้รับรู้ข่าวนี้ไว้แล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งสะท้อนในระดับราคาปัจจุบัน

ปัจจัยด้านอุปสงค์ยังคงอ่อนแอ หลังพายุฤดูหนาวกระทบการกลั่นน้ำมันในสหรัฐ ส่งผลให้สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ด้านอุปทาน การส่งออกน้ำมันจากท่าเรือฝั่งตะวันตกของรัสเซียมีแนวโน้มหดตัว 8% ในเดือนกุมภาพันธ์ เหตุถูกมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐกดดัน นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกพลัสต้นเดือนหน้า ที่จะหารือท่าทีต่อนโยบายเพิ่มการผลิตน้ำมันของสหรัฐ

แม้ทรัมป์จะกดดันให้โอเปกและซาอุดีอาระเบียลดราคาน้ำมัน อ้างว่าจะช่วยยุติสงครามในยูเครน แต่นักวิเคราะห์จาก BMI เชื่อว่าสงครามราคาระหว่างสหรัฐกับโอเปกพลัสคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะจะสร้างความเสียหายให้ทั้งสองฝ่าย