Meta เปิดตัวความสามารถใหม่ของ Meta AI แชทบอทอัจฉริยะที่จดจำและตอบสนองได้ดีกว่าเดิม

Meta กำลังยกระดับเทคโนโลยี AI ด้วยการเปิดตัวความสามารถใหม่สำหรับ Meta AI แชทบอทอัจฉริยะที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้แชร์ในการสนทนา ไม่ว่าจะเป็นผ่าน WhatsApp, Facebook Messenger หรือ Instagram โดยเทคโนโลยีใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อปรับแต่งการตอบสนองให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ใหม่ที่ปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้

หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ Meta AI นำเสนอคือความสามารถในการจดจำและเรียนรู้จากข้อมูลที่ผู้ใช้เลือกแชร์ ผู้ใช้สามารถแจ้งแชทบอทให้จดจำรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองได้ เช่น

• สิ่งที่ชอบ: งานอดิเรก, ดนตรีที่ชื่นชอบ หรือเมนูโปรด
• ข้อจำกัดส่วนตัว: เช่น การทานมังสวิรัติ, การแพ้อาหาร หรือข้อกำหนดพิเศษอื่น ๆ
• ความสนใจเฉพาะ: กิจกรรมที่เหมาะกับครอบครัว หรือการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด

ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้เคยแจ้ง Meta AI ว่าตนเองเป็นมังสวิรัติ แชทบอทจะหลีกเลี่ยงการแนะนำอาหารที่มีเนื้อสัตว์ในอนาคต หรือหากผู้ใช้บอกว่าชื่นชอบดนตรีแจ๊ส AI อาจช่วยแนะนำกิจกรรมการแสดงสดหรือเทศกาลดนตรีในพื้นที่ใกล้เคียง

ยกระดับการปรับแต่งด้วยบริบท

ความสามารถใหม่ยังรวมถึงการนำข้อมูลจากบริบทการสนทนามาใช้ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้สอบถาม Meta AI เกี่ยวกับกิจกรรมสำหรับครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์ แชทบอทอาจแนะนำ:

• บัตรเข้าชมการแสดงดนตรีคันทรี
• การจัดแสดงนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์
• สวนสนุกหรือกิจกรรมกลางแจ้ง

ทั้งนี้ คำแนะนำเหล่านี้อ้างอิงจากข้อมูลเช่น ที่อยู่ที่ผู้ใช้ตั้งค่าใน Facebook, ประวัติการชมวิดีโอ, และความจำของแชทบอทที่รู้ว่าผู้ใช้มีคู่สมรสและลูกเล็กสองคน

ความเป็นส่วนตัวมาเป็นอันดับหนึ่ง

แม้ Meta AI จะสามารถจดจำข้อมูลเพื่อให้การตอบสนองที่ดีขึ้น แต่ผู้ใช้ยังคงสามารถจัดการข้อมูลได้ด้วยตนเอง Meta ชี้แจงว่าผู้ใช้สามารถ:

• เลือกข้อมูลที่ต้องการให้แชทบอทจดจำได้
• ลบข้อมูลที่เคยบันทึกไว้ได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ความสามารถใหม่ของ Meta AI กำลังเปิดให้ใช้งานใน สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นกลุ่มแรก โดยจะขยายการให้บริการไปยังประเทศอื่นในอนาคต

Meta AI การผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและความเข้าใจ

Meta ตั้งเป้าหมายให้ Meta AI เป็นผู้ช่วยที่ “ฉลาด” และ “เข้าใจ” ผู้ใช้มากที่สุด โดย Meta กล่าวว่าสิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้การสนทนาระหว่างผู้ใช้และแชทบอทมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและมีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

นี่คือก้าวสำคัญที่ Meta ตั้งใจจะใช้เทคโนโลยี AI ในการเชื่อมโยงและปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง