เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานเก็บสารเคมี วินโพรเสส จ.ระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านหนองพวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณโกดังเก็บวัสดุสารเคมี หมายเลข 5 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสวนยางพาราของชาวบ้าน เพลิงได้ลุกลามไปในบริเวณกว้าง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.บางบุตร ได้รีบเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วนและสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ในการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเศษวัสดุเช่น ถุงพลาสติก, เข็มฉีดยาง, ถุงยางอนามัย และเศษกระดาษที่ถูกเผาไหม้บริเวณจุดที่ไฟเกิดขึ้น นอกจากนี้ ใกล้กับจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน ยังพบถังน้ำมันสีฟ้า ขนาด 30 ลิตร จำนวน 2 ถัง วางทิ้งอยู่ห่างจากกันเพียง 2 เมตร ถังน้ำมันหนึ่งถังพบว่ามีน้ำมันดีเซลเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย ส่วนอีกถังยังเต็มไปด้วยน้ำมัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บถังน้ำมันทั้งสองใบไปเพื่อตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงที่อาจจะติดอยู่บนถังน้ำมันเหล่านี้

จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง นายสนิท มณีศรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พบเห็นเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อได้ยินการแจ้งเหตุจากกลุ่มไลน์ของหมู่บ้าน เขาจึงรีบขี่จักรยานยนต์ไปดูที่เกิดเหตุ พบว่าต้นเพลิงมาจากโกดัง 5 ซึ่งเป็นโกดังเก็บวัสดุพลาสติกและวัสดุเช่นถุงยางอนามัย เศษกระดาษ ซึ่งหากเกิดเพลิงไหม้จากวัสดุเหล่านี้เอง ก็คงจะต้องเริ่มจากหญ้าที่อยู่ในสวนยาง แต่ในกรณีนี้ไฟลุกขึ้นจากกองเศษวัสดุที่อยู่ภายในโกดัง คาดว่าเป็นการจุดไฟจากฝีมือของบุคคลภายนอก

เจ้าของสวนยางพารา ลุงเทียบ สมานมิตร ผู้ที่พบถังน้ำมันในสวนยางของตนได้กล่าวว่า เขาได้รับการแจ้งเตือนจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุไฟไหม้บริเวณโกดัง 5 และเมื่อเขามาถึงที่เกิดเหตุ พบว่ากลิ่นควันและน้ำมันที่เผาไหม้ยังคงติดอยู่ในอากาศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังดำเนินการดับไฟ "เพลิงไหม้รุนแรงมากในช่วงแรก และยังกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชาวบ้านในระยะยาว ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุธรรมชาติ"

การพบถังน้ำมันในสวนยางพาราดังกล่าวถือเป็นหลักฐานสำคัญที่เชื่อว่าเหตุเพลิงไหม้นี้อาจจะเกิดจากการลอบวางเพลิง โดยตั้งคำถามว่า การทิ้งถังน้ำมันขนาด 30 ลิตรในพื้นที่ห่างจากโรงงานไปเพียงเล็กน้อยนั้นเป็นการกระทำที่ตั้งใจ หรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานและนำถังน้ำมันทั้งสองใบไปตรวจสอบเพิ่มเติม โดยจะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่ามีสารอันตรายหรือสารเร่งไฟที่เป็นสาเหตุของการลอบวางเพลิงหรือไม่ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบลายนิ้วมือที่อาจจะติดอยู่บนถังน้ำมัน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งรอบบริเวณโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อรวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย และหากพบเบาะแสใดๆ ก็จะดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หวังว่าการตรวจสอบจะช่วยเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและป้องกันการเกิดเหตุลักษณะเดียวกันในอนาคต

ขอขอบคุณข้อมูล ภาพข่าว จาก : ปชส.ระยอง