กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา – บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ขณะที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสาบานตนของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยในช่วงเย็นของวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ณ สนามกีฬาแคปิตอล วัน อารีนา พร้อมกล่าวยืนยันถึงแผนฟื้นฟูประเทศและความตั้งใจที่จะนำสหรัฐฯ กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ในระหว่างการปราศรัย ทรัมป์ได้เน้นย้ำถึงแนวทางการบริหารประเทศที่เขาเชื่อว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพิ่มความมั่นคง และยกระดับบทบาทของสหรัฐฯ ในเวทีโลก พร้อมประกาศว่า “เราจะก้าวข้ามช่วงเวลาที่ท้าทาย และเดินหน้าสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและรุ่งเรือง”

พิธีสำคัญก่อนรับตำแหน่ง
ทรัมป์และครอบครัว รวมถึงว่าที่รองประธานาธิบดี เจ ดี แวนซ์ ได้ร่วมวางพวงหรีดที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน เพื่อแสดงความเคารพต่อทหารนิรนาม นับเป็นการเริ่มต้นวันแห่งประวัติศาสตร์ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงวัน (เวลาท้องถิ่น) จะมีพิธีสาบานตนซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

งานเลี้ยงต้อนรับอย่างอลังการ
ก่อนหน้าพิธีสาบานตน ทรัมป์และ เมลาเนีย ทรัมป์ ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับแขกกว่า 500 คน ภายในงานมีการแสดงดนตรี และจุดพลุเฉลิมฉลอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและการต้อนรับจากกลุ่มผู้สนับสนุน

ผลสำรวจและมุมมองประชาชน
ในวันเดียวกัน สำนักข่าว CBS News ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อผลงานรัฐบาลของ โจ ไบเดน ซึ่งกำลังจะหมดวาระ โดยพบว่าคะแนนความนิยมของไบเดนลดลงเหลือเพียง 37% ต่ำที่สุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อัตราความพึงพอใจของไบเดนยังต่ำกว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งได้รับความนิยมที่ 41% ก่อนหมดวาระเมื่อปี 2021

นักวิเคราะห์มองว่าความนิยมของไบเดนลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจและปัญหาเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน ความกังวลเรื่องสุขภาพและอายุของไบเดนที่เคยประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งสมัยที่ 2 แต่ถอนตัวในเวลาต่อมา ยิ่งส่งผลต่อคะแนนความนิยมของพรรคเดโมแครต

การกลับมาของทรัมป์
การกลับมาสู่ตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ของทรัมป์ครั้งนี้ถูกจับตามองทั่วโลก ท่ามกลางความคาดหวังว่าเขาจะสามารถนำประเทศผ่านพ้นวิกฤตและสร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาคมโลกอีกครั้ง หรือไม่ ทั้งนี้ สหรัฐฯ เตรียมเผชิญบททดสอบที่สำคัญในปี 2025 ที่ทรัมป์ต้องพิสูจน์ความสามารถในการฟื้นฟูประเทศตามที่สัญญาไว้