ความแตกต่างระหว่าง Galaxy S24 และ Galaxy S25 นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้โดดเด่น
วันที่โพสต์: 7 มกราคม 2568 13:34:29 การดู 10 ครั้ง ผู้โพตส์ cuanag
Samsung Galaxy S25 คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนมกราคม 2024 โดยมีการอัปเกรดหลายด้านที่จะช่วยเสริมความนิยมของรุ่นนี้ ต่อจากความสำเร็จของ Galaxy S24 ซึ่งทำยอดขายดีในปี 2025 แต่ยังมีบางส่วนที่ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า รายละเอียดหลักๆ เกี่ยวกับ Galaxy S25 ที่คาดว่าจะเปิดตัวมีดังนี้:
1. ชิปเซ็ต (Chipset)
Galaxy S25 จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ที่คาดว่าจะใช้ในรุ่นทั้งหมดของ S25 ซีรีส์ รวมถึงรุ่น Ultra ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตามยังมีบางรายงานที่บอกว่าอาจจะมีการใช้ชิปเซ็ต Exynos บางรุ่นในบางตลาด แต่น่าจะเป็น Snapdragon สำหรับตลาดหลักทั่วโลก
2. RAM และ ความจุ (RAM and Storage)
- RAM: Galaxy S25 จะมาพร้อม RAM ขนาด 12GB ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดที่สำคัญจาก S24 ที่มี RAM ขนาด 8GB โดยการเพิ่ม RAM นี้จะช่วยให้การทำงานของเครื่องราบรื่นยิ่งขึ้น และสามารถจัดการกับแอปพลิเคชันหลายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ความจุ: คาดว่า Galaxy S25 จะมีตัวเลือกความจุเริ่มต้นที่ 256GB แม้จะมีรายงานบางแหล่งบอกว่าจะมีความจุเริ่มต้นที่ 128GB แต่จากการอัปเกรดต่างๆ น่าจะทำให้ความจุเริ่มต้นอยู่ที่ 256GB มากขึ้น โดยมีตัวเลือกให้เลือกมากมายและคาดว่า Samsung จะมีข้อเสนอพิเศษในการอัปเกรดความจุฟรีในช่วงพรีออเดอร์
3. ดีไซน์ (Design)
- ดีไซน์ภายนอก: Galaxy S25 คาดว่าจะมาพร้อมดีไซน์ที่คล้ายกับ Galaxy S24 แต่มีขนาดที่บางลงเล็กน้อย ด้วยขนาด 146.9 x 70.4 x 7.2 มม. ซึ่งถือว่าเล็กน้อยมาก แต่ช่วยให้การจับเครื่องสะดวกสบายยิ่งขึ้น
- วัสดุ: วัสดุที่ใช้จะเป็น Armor Aluminum ซึ่งแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- สี: Galaxy S25 จะมีให้เลือกหลายสี ได้แก่ Blue, Black, Coral Red, Icy Blue, Mint, Navy, Pink Gold และ Silver Shadow ซึ่งจะมีตัวเลือกสีพิเศษในเว็บไซต์ของ Samsung อีกด้วย
4. หน้าจอ (Display)
- ขนาดหน้าจอ: รุ่น S25 จะใช้หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว FHD+ LTPO 120Hz ซึ่งยังคงเหมือนกับ S24 โดยมีการปรับลดขอบหน้าจอให้บางลงเพื่อให้ได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
- กระจก: คาดว่า Galaxy S25 จะใช้ Gorilla Glass เวอร์ชันใหม่ที่ทนทานต่อการขีดข่วนและตกกระแทก
5. กล้อง (Cameras)
- กล้องหลัง: กล้องหลักจะมีความละเอียด 50MP, กล้องเทเลโฟโต้ 10MP 3x และกล้อง Ultra-wide 12MP ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงจาก S24 แม้ว่าจะมีการปรับปรุงในด้านซอฟต์แวร์และ AI เพื่อให้ได้ภาพที่ดีขึ้น
- กล้องหน้า: กล้องเซลฟี่ 12MP คาดว่าจะยังคงใช้เหมือนกับ S24 ซึ่งมีคุณภาพดีในการถ่ายภาพเซลฟี่
6. แบตเตอรี่ (Battery)
Galaxy S25 จะมีแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 25W และการชาร์จไร้สาย 15W ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่คล้ายกับ S24 โดยจะรองรับการชาร์จ Qi2 ที่รองรับการใช้แม็กเนตติดกับเครื่องเพื่อชาร์จและใช้งานอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
7. One UI 7 และฟีเจอร์ AI
- One UI 7: S25 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ One UI 7 ซึ่งจะมีการปรับปรุง UI ใหม่ให้มีการใช้งานที่ราบรื่นและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ที่ช่วยในการจัดการการใช้งานแอปพลิเคชันและประสิทธิภาพเครื่อง
- AI: Samsung จะเสริมฟีเจอร์ AI โดยให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์ AI ฟรีในรุ่น S25 ส่วนผู้ใช้รุ่น S25+ และ S25 Ultra จะได้ใช้ฟีเจอร์ AI มากขึ้น เช่นการรับประสบการณ์ AI ที่เป็นขั้นสูงผ่านการสมัครสมาชิกบริการ Gemini Advanced
8. ราคา (Price)
ราคาของ Galaxy S25 คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกับ Galaxy S24 ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา โดยราคาที่คาดว่าจะเปิดตัวมีดังนี้:
- Galaxy S25 (128GB): ประมาณ 35,000 บาท
- Galaxy S25+: ประมาณ 57,500 บาท
- Galaxy S25 Ultra: ประมาณ 70,800 บาท
9. การชาร์จ (Charging)
- การชาร์จเร็ว: รองรับการชาร์จเร็ว 25W โดยการชาร์จไร้สายจะรองรับการชาร์จ 15W ผ่าน Qi2 แต่ไม่ได้ใช้แม่เหล็กในตัวเครื่อง ซึ่งผู้ใช้ต้องใช้เคสแม่เหล็กสำหรับการชาร์จแม่เหล็ก
Samsung Galaxy S25 คาดว่าจะมีการปรับปรุงที่สำคัญหลายด้านไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของเครื่อง, การอัปเกรดกล้อง, การใช้งาน AI และการออกแบบที่ทันสมัยขึ้น ถึงแม้ว่าหลายฟีเจอร์จะยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่มันยังคงเป็นสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ในปี 2025
แท็ก: Samsung AI ชิปเซ็ต Smartphone OneUI7 GalaxyS25 ข่าวมือถือ มือถือใหม่ SamsungGalaxy