ตอนที่ 2  สายใยที่ต้องต่อสู้  

ในวังหลวง หญิงสาวที่ชื่อหลินเออร์ยังคงนึกถึงการพบกันกับเซียวหงในป่าท้ออยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะกลับมาที่วังและต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเอง แต่ภาพใบหน้าของเซียวหงก็ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของเธอ ทุกครั้งที่เธอเห็นดอกท้อในสวนวัง ความรู้สึกที่มีต่อเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นในใจ

“องค์หญิง หลินเออร์” เสียงของนางกำนัลทำให้หลินเออร์ต้องสะดุ้ง “ถึงเวลาเข้าพบพระราชาแล้วค่ะ”

“ขอบใจมาก” หลินเออร์ตอบพร้อมกับลุกขึ้นเดินตามนางกำนัลไปยังห้องโถงของพระราชา

เมื่อหลินเออร์เข้าไปในห้อง พระราชานั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หลินเออร์ ข้ามีเรื่องที่จะปรึกษากับเจ้า”

“โปรดรับสั่งเถิดพระบิดา” หลินเออร์ตอบ

“เจ้าได้อายุครบ 18 ปีแล้ว และถึงเวลาที่เจ้าจะต้องพิจารณาเรื่องการแต่งงาน” พระราชากล่าว พร้อมกับมองไปที่หลินเออร์ด้วยสายตาที่มีความหวัง

“การแต่งงาน?” หลินเออร์รู้สึกตกใจ เธอไม่เคยคิดว่าถึงเวลานี้จะมาเร็วขนาดนี้ “ข้าไม่รู้ว่าข้าเตรียมพร้อมหรือยัง”

“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะหาคู่ที่เหมาะสมให้กับเจ้า” พระราชากล่าว “เจ้าต้องการความมั่นคงในชีวิต และการแต่งงานจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักร”

“แต่ข้า…” หลินเออร์พูดไม่ออก เธอคิดถึงเซียวหงและความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา ความรักที่เพิ่งเริ่มต้นกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่โตที่เธอไม่รู้จะจัดการอย่างไร

“เจ้าจะได้พบกับผู้ชายที่ข้าคัดเลือกไว้ในงานเลี้ยงในไม่ช้า” พระราชาสั่งด้วยเสียงที่เด็ดขาด

หลินเออร์ได้แต่พยักหน้า เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถต่อต้านพระราชาได้ แต่ใจของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล


ในป่าท้อ เซียวหงก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา หลังจากวันนั้นที่เขาได้พบกับหลินเออร์ เขากลับไปฝึกฝนอย่างหนัก ในขณะที่ความรู้สึกต่อหลินเออร์ยังคงลึกซึ้งในใจของเขา

“ข้าต้องการเป็นนักยุทธที่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธอ” เซียวหงคิดในใจ ขณะที่ฝึกทักษะการต่อสู้

แต่ในความคิดของเขายังมีอีกหนึ่งความกังวล “องค์หญิงคือผู้ที่มีฐานะสูงส่ง ในขณะที่ข้าเป็นเพียงนักยุทธในป่า ความรักของเราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จหรือไม่?”

วันเวลาผ่านไป เซียวหงมักจะไปที่ป่าท้อทุกวันเพื่อรอคอยการกลับมาของหลินเออร์ เขาไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาหรือไม่ แต่หัวใจของเขายังคงหวัง

“หากวันหนึ่งเราได้พบกันอีก ข้าจะบอกเธอว่าข้ารักเธอ” เขาพูดกับตัวเอง

หลายวันต่อมา ในงานเลี้ยงที่วังหลวง หลินเออร์ได้พบกับผู้ชายหลายคนที่พระราชาเลือกไว้ให้ โดยเฉพาะคนที่ชื่อซุนเจีย หนุ่มรูปงามที่มีฐานะทางการเงินดี แต่กลับไม่มีเสน่ห์ในสายตาของหลินเออร์เลย

“ข้าหวังว่าเจ้าจะพิจารณาซุนเจียอย่างจริงจัง” พระราชากล่าวขณะที่มองไปที่หลินเออร์

“แต่ข้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ” หลินเออร์ตอบพร้อมกับพยายามข่มความรู้สึกไม่พอใจ

“เจ้าจะได้มีชีวิตที่ดีและมั่นคง” พระราชาย้ำ

หลินเออร์รู้สึกเหมือนชีวิตของเธอถูกกำหนดไว้แล้ว และหัวใจของเธอก็รู้สึกหดหู่ “ข้าเพียงแค่ต้องการมีอิสระและเลือกชีวิตของตัวเอง”

ในขณะที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไป เสียงดนตรีและการพูดคุยทำให้บรรยากาศในวังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่หลินเออร์กลับรู้สึกเหงาและเปล่าเปลี่ยว

“องค์หญิง!” เสียงของซุนเจียเรียกเธอ “โปรดให้ข้าได้เต้นรำกับท่าน”

หลินเออร์เบือนหน้าหนีและมองไปที่ประตู เธอหวังว่าจะได้พบกับเซียวหง แต่การพบกันของพวกเขาเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน

“ท่านซุน ข้าไม่สะดวกตอนนี้” หลินเออร์พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ทำไม? ข้าคือคนที่เหมาะสมกับท่านที่สุด” ซุนเจียพูดด้วยความมั่นใจ

“แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ” หลินเออร์ตอบ

การสนทนาของพวกเขาถูกขัดจังหวะเมื่อหลินเออร์เห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเรียบง่ายเดินเข้ามาในงานเลี้ยง

“ใครน่ะ?” หลินเออร์ถามนางกำนัลที่อยู่ข้างๆ

“ข้าทราบไม่ว่าเป็นใคร แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมาจากชนบท” นางกำนัลตอบ

หลินเออร์รู้สึกอยากรู้จักหญิงสาวนั้น เมื่อหญิงสาวเข้ามาใกล้ เธอจึงสามารถเห็นได้ชัดเจน

หญิงสาวมีผมยาวสลวยและดวงตาที่มีประกายระยิบระยับ ซึ่งทำให้หลินเออร์รู้สึกคุ้นเคย ในขณะนั้น หลินเออร์ก็ตระหนักว่าหญิงสาวนี้มีความสัมพันธ์กับเซียวหง

“เธอคือใครกัน?” หลินเออร์ถามตัวเอง

หญิงสาวนั้นเดินเข้าไปทักทายผู้คนในงานเลี้ยง และหลินเออร์ก็ต้องการที่จะรู้จักเธอมากขึ้น แต่ทว่าเวลานั้น พระราชาก็เรียกให้ทุกคนเงียบ

“วันนี้เป็นวันสำคัญในการแนะนำคู่แต่งงานขององค์หญิง” พระราชากล่าว พร้อมกับมองไปที่ซุนเจีย “ข้าขอประกาศว่า ซุนเจียจะเป็นคู่หมั้นขององค์หญิงหลินเออร์”

เสียงปรบมือดังกึกก้องในห้อง แต่หลินเออร์รู้สึกเหมือนโลกกำลังพังทลายลง เธอไม่สามารถเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ

“ไม่! ข้าจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น” หลินเออร์คิดในใจ

ในขณะที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมีความสุข หลินเออร์รู้สึกเหมือนตนถูกกดดันอย่างหนัก เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี

“ข้าต้องไปที่ป่าท้ออีกครั้ง” หลินเออร์พูดกับตัวเอง “ข้าต้องการเจอเซียวหง”


ในขณะเดียวกัน เซียวหงรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในใจของเขาในเวลาที่เขาฝึกฝนในป่าท้อ เขาได้ยินเสียงนกร้องและรู้สึกได้ถึงลมพัดเย็น ๆ ที่เข้ามา

“ทำไมใจของข้าถึงหนักหน่วงเช่นนี้?” เซียวหงสงสัยในใจ “หรือว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นกับองค์หญิง?”

ในความคิดของเขา หลินเออร์ยังคงเป็นความทรงจำที่สวยงาม และเขาหวังว่าพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง

หลายวันต่อมา หลินเออร์ตัดสินใจที่จะออกจากวังอีกครั้ง เธอมีความรู้สึกว่าเธอต้องการเสรีภาพ และเซียวหงอาจเป็นคำตอบสำหรับความรู้สึกนี้

เมื่อหลินเออร์มาถึงป่าท้อ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นของธรรมชาติที่ช่วยให้จิตใจของเธอสงบลง ดอกท้อยังคงบานสะพรั่งสวยงาม และเธอรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับเซียวหงที่นี่

“เซียวหง! ข้ามาที่นี่!” หลินเออร์เรียกด้วยเสียงที่หวังว่าเขาจะได้ยิน

แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ เธอรู้สึกผิดหวัง แต่ไม่ยอมแพ้ เธอเดินต่อไปตามทางที่เคยไปหานเขา

ในขณะที่หลินเออร์เดินอยู่ในป่าท้อ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

“องค์หญิง!” เสียงเซียวหงดังมาจากข้างหลัง

หลินเออร์หันกลับไปพบกับเซียวหงในชุดธรรมดาที่ดูสง่างาม ดวงตาของเขาสดใสเมื่อเห็นเธอ

“เซียวหง!” หลินเออร์ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

“เจ้ามาที่นี่ทำไม?” เซียวหงถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“ข้ารู้สึกอึดอัดในวัง ข้าต้องการหาความสงบ” หลินเออร์ตอบ

“ข้าเข้าใจ” เซียวหงกล่าว “ที่นี่คือที่ที่ข้ารู้สึกเป็นอิสระที่สุด”

พวกเขานั่งลงใต้ต้นท้อและพูดคุยกันเรื่องราวในชีวิต ในขณะที่ความรู้สึกที่มีต่อกันก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ข้าจะไม่ยอมให้ความรักของเราเป็นเพียงความทรงจำ” หลินเออร์กล่าวด้วยเสียงที่มุ่งมั่น “แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย”

“ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้ามีความสุข” เซียวหงตอบ “ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใด”

พวกเขาเผชิญหน้ากับความท้าทาย แต่ในขณะนี้ ทั้งคู่ต่างมีความหวังที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าที่พวกเขาเคยคิด

“มาร่วมมือกันเพื่อรักษาความรักนี้ไว้” หลินเออร์กล่าวด้วยความมั่นใจ

เซียวหงยิ้ม “เราจะทำให้ได้”

ในขณะนั้น ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาได้เริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ก็เต็มไปด้วยความหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

ตอนก่อนหน้า      ตอนต่อไป