ผู้สนับสนุนประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล หลายพันคนรวมตัวในกรุงโซล เรียกร้องคืนอำนาจหลังถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (21 ธันวาคม) มีการชุมนุมของผู้สนับสนุนประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล แห่งเกาหลีใต้ในกรุงโซล นับเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมหลายพันคน หลังจากที่ประธานาธิบดีถูกสภาลงมติถอดถอนจากตำแหน่งและถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

บรรยากาศในการชุมนุมเต็มไปด้วยความคุกรุ่น ผู้ชุมนุมหลายคนถือป้ายข้อความเรียกร้องความยุติธรรม และสนับสนุนให้ประธานาธิบดียุนกลับมาดำรงตำแหน่ง บางคนยังได้กล่าวคำประณามต่อการลงมติของรัฐสภาที่พวกเขามองว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่เป็นธรรมและขัดต่อความต้องการของประชาชน

หนึ่งในผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนายยุนวัย 75 ปี เปิดเผยด้วยน้ำตาว่า เธอรู้สึก "โกรธและเสียใจอย่างสุดซึ้ง" ที่นายยุนถูกลงมติถอดถอน เธอเชื่อว่าการประกาศกฎอัยการศึกของนายยุนเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และการกระทำดังกล่าวควรได้รับการสนับสนุนมากกว่าการต่อต้าน

"ฉันรู้สึกผิดหวังจนร้องไห้และใจสลาย" เธอกล่าว "วันนี้ฉันออกมาชุมนุมเพราะต้องการส่งเสียงว่าการลงมติของรัฐสภาไม่ยุติธรรมต่อประชาชนและประเทศ"

การตัดสินใจอยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญ

ในขณะนี้ ศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าการถอดถอนนายยุนตามที่รัฐสภาเสนอจะมีผลหรือไม่ หากศาลมีคำตัดสินยืนยันตามมติของรัฐสภา นายยุนจะถูกปลดออกจากตำแหน่งทันที อย่างไรก็ตาม หากเขาเลือกที่จะลาออกจากตำแหน่งเองก่อนการตัดสินใจของศาล ก็จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 60 วันตามกฎหมาย

สถานการณ์นี้ได้สร้างความแตกแยกในสังคมเกาหลีใต้ โดยฝ่ายสนับสนุนยืนยันว่าประธานาธิบดีมีสิทธิและอำนาจในการใช้กฎอัยการศึกเพื่อปกป้องประเทศ ขณะที่ฝ่ายคัดค้านมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และขัดต่อหลักการประชาธิปไตย

ผลกระทบต่อการเมืองและสังคม

การถอดถอนประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งเพียงไม่กี่ปีหลังการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ถือเป็นการสั่นสะเทือนการเมืองเกาหลีใต้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อการชุมนุมของผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์การเมืองระบุว่า ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับอนาคตของนายยุน และยังอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ

ขณะนี้ ประชาชนทั่วประเทศต่างจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเกาหลีใต้จะก้าวผ่านวิกฤตการณ์ทางการเมืองครั้งนี้ไปได้อย่างไร