แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพ ณ ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

วันที่ 17 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร พร้อมคณะรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจแก่ประชาชนที่ประสบภัยจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพซึ่งประกอบด้วยสิ่งของจำเป็น เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม และอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน ให้แก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอเมืองและชุมชนใกล้เคียงที่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วม

การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งเป็นการแสดงถึงความห่วงใยและความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างตรงจุดและรวดเร็ว นายกรัฐมนตรีแพทองธารได้กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งให้การช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเร็ว และจะมีการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้กลับคืนสู่สภาพปกติในเร็วที่สุด รวมถึงจะจัดสรรงบประมาณให้แก่พื้นที่ประสบภัยเพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ทันที

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "การลงพื้นที่ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพื่อเยี่ยมเยือนประชาชน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้สามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างเร็วที่สุด รัฐบาลจะไม่ทิ้งประชาชน และจะดำเนินการทุกวิถีทางในการช่วยเหลืออย่างเต็มที่"

ในระหว่างการเยี่ยมเยือน นายกรัฐมนตรีได้ไปมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนในชุมชนท่าโพธิ์ โดยพื้นที่นี้มีประชากรกว่า 3,000 คนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่ยังไม่ลดลง ในการมอบถุงยังชีพนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยหลายคนโบกมือและตะโกนคำว่า “รักนายกรัฐมนตรี” ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีและขอบคุณที่ประชาชนยังคงอดทนและยิ้มแย้มแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการเยียวยาผู้ประสบภัย โดยแนะนำให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาจำนวน 9,000 บาท ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อนในระยะยาว พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือและอดทนในช่วงเวลานี้ นายกรัฐมนตรียังได้ส่งกำลังใจให้กับประชาชนทุกคนให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ และเชื่อว่าความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะสามารถทำให้ประชาชนกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นในเร็ววัน

ก่อนจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นว่าจะติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการฟื้นฟูพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยจะประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับผู้ประสบภัย พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ทิ้งประชาชนในยามวิกฤต และจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีได้ในเร็วที่สุด