นายกฯ อันวาร์ทาบทาม "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษา ช่วยมาเลเซียรับตำแหน่งประธานอาเซียน 2568

วันที่ 17 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ข่าว เบอร์นามา ของมาเลเซีย รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ได้ทาบทามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ เพื่อสนับสนุนมาเลเซียในฐานะประธานกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม 2568

ดึงประสบการณ์ทางการเมืองเสริมบทบาทอาเซียน
นายอันวาร์กล่าวถึงบทบาทสำคัญของนายทักษิณว่า ประสบการณ์ที่กว้างขวางในด้านการเมืองระหว่างประเทศของอดีตผู้นำไทยจะช่วยสนับสนุนความพยายามของมาเลเซียในการผลักดันความร่วมมือในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

นายทักษิณจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และแนวทางความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมความสามัคคีในกลุ่มประเทศอาเซียนและเพิ่มบทบาทของอาเซียนในเวทีโลก โดยนอกจากนายทักษิณแล้ว มาเลเซียยังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาจากประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ

การประกาศระหว่างการเยือนของ "แพทองธาร"
นายอันวาร์เปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างการเยือนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ โดยย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองภายในของไทย แต่มุ่งเน้นที่การยกระดับบทบาทของอาเซียนในระดับสากล

น.ส.แพทองธารแสดงความยินดีกับการที่มาเลเซียจะรับหน้าที่ประธานอาเซียน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซียในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด

บทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน
การรับหน้าที่ประธานอาเซียนในปี 2568 ของมาเลเซียจะดำเนินไปภายใต้แนวคิด “การรวมตัวและความยั่งยืน” (Unity and Sustainability) ซึ่งสะท้อนถึงเป้าหมายของมาเลเซียในการสร้างอาเซียนที่เข้มแข็งและยั่งยืน

นายอันวาร์ให้คำมั่นว่ามาเลเซียจะใช้โอกาสนี้ผลักดันประเด็นสำคัญ เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืน การเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค

บทบาทของ "ทักษิณ" ในเวทีภูมิภาค
นายทักษิณ ชินวัตร วัย 75 ปี เป็นบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองของไทยและภูมิภาคอาเซียนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แม้ปัจจุบันจะไม่ได้มีบทบาทในทางการเมืองไทยโดยตรง เนื่องจากคำพิพากษาของศาล แต่ความรู้ความเข้าใจในภูมิภาคและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังเป็นที่ยอมรับ

บทบาทในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่นายทักษิณจะได้มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน การค้าเสรี และการสร้างความเป็นเอกภาพในอาเซียน

เสียงสะท้อนจากภูมิภาค
ข่าวการทาบทามนายทักษิณได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ทั้งในมาเลเซีย ไทย และในกลุ่มประเทศอาเซียน นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของนายอันวาร์ในการสร้างความสมดุลทางการเมืองและการนำผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาคมาร่วมสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยจากบางฝ่ายเกี่ยวกับความเหมาะสมของบทบาทที่ปรึกษาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของผลกระทบต่อการเมืองไทยและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

อนาคตของอาเซียนภายใต้การนำของมาเลเซีย
มาเลเซียมีความตั้งใจที่จะยกระดับบทบาทของอาเซียนในฐานะองค์กรระหว่างประเทศที่สามารถรับมือกับความท้าทายระดับโลก ทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อม ความมั่นคง และเศรษฐกิจ มาเลเซียหวังว่าการมีบุคคลสำคัญอย่างนายทักษิณและที่ปรึกษาจากประเทศสมาชิกอื่นๆ จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและความเป็นปึกแผ่นให้กับภูมิภาคในปี 2568 และในอนาคต