นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ พร้อมสั่งการช่วยเหลือด่วน

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ก่อนการเดินทางไปประชุมผู้นำไทย-มาเลเซียที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ศปช.) ได้จัดแผนปฏิบัติการเพื่อการบรรเทาภัยอุทกภัยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สำหรับจังหวัดระนองซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก ศปช. ได้รายงานว่า มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทันที โดยมีการจัดชุดอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค และอุปกรณ์สำหรับดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็กเล็กที่อาจต้องการการดูแลพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งทีมฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่เพื่อเสริมความช่วยเหลือให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่

การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนการลงพื้นที่ช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เสื้อชูชีพ และเครื่องมือในการตรวจสอบกระแสไฟฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ในขณะเดียวกัน ศปช. ได้จัดทีมปฏิบัติการจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี นำกำลังพร้อมอุปกรณ์เครื่องจักรกลสาธารณภัยกระจายความช่วยเหลือลงพื้นที่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม และได้ดำเนินการแจกจ่ายอาหารและสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนการสัญจรและแจ้งเตือน SMS ผ่านเครือข่ายมือถือให้ประชาชนในพื้นที่ทราบถึงเส้นทางที่ปลอดภัยและคำแนะนำต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมการอย่างรอบคอบ โดยได้ประสานงานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตข้างเคียงเพื่อส่งกำลังและเครื่องจักรกลสาธารณภัยมาช่วยเหลือในพื้นที่เสี่ยง โดยเจ้าหน้าที่จะยังคงประจำการในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และจะคอยประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีได้ให้คำแนะนำว่า เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องประเมินความพร้อมของอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนการปฏิบัติงานในพื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

สำหรับสถานการณ์ในภาคใต้ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังจากภาวะน้ำท่วม มีพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ได้แก่ จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลหลากและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน

ในขณะที่ภาคเหนือแม้จะมีฝนตกบ้างในบางพื้นที่ เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และน่าน แต่สถานการณ์ยังไม่มีความน่าเป็นห่วงและไม่ได้ส่งผลกระทบให้น้ำท่วมในพื้นที่แต่อย่างใด โดยฝนที่ตกในช่วงวันที่ 15-17 ธันวาคม นั้นมีลักษณะเป็นฝนปกติที่ไม่รุนแรงและไม่ได้ส่งผลกระทบในระดับที่ต้องมีการเตรียมการเผชิญเหตุ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในภาคเหนือ เช่น บ้านรักไทยและปางอุ๋ง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แม้ว่าจะมีฝนตกเล็กน้อยในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา แต่ในช่วงเช้าของวันนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว และนักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 โทร. 075-383-405 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมผ่านช่องทางต่าง ๆ ของกรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงวิทยุกระจายเสียงและสถานีโทรทัศน์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ