ศูนย์วิจัยกสิกรไทยหั่นจีดีพีปี 2568 เหลือ 2.4% สะท้อนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากปัจจัยภายนอกและภายใน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2568 ลงเหลือเพียง 2.4% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ในปี 2567 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 2.6% โดยเหตุผลหลักมาจากการชะลอตัวของการท่องเที่ยวและการส่งออก ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน รวมถึงปัญหาภายในประเทศที่ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา

เศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจากสงครามการค้าและนโยบาย "อเมริกาเฟิร์สท์"

ในส่วนของเศรษฐกิจโลก การกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และการใช้มาตรการภาษีที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเหมือนในช่วงทศวรรษ 1930 สถานการณ์นี้ทำให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกของไทยที่จะได้รับผลกระทบทั้งจากการตลาดส่งออกสหรัฐฯ และการแข็งค่าของสินค้าจีนที่แข่งขันในตลาดอื่นๆ

เศรษฐกิจไทย: การท่องเที่ยวและการส่งออกชะลอตัว

การท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเติบโตช้าลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกับระดับก่อนโควิด ขณะที่การส่งออกไทยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าโลก โดยคาดว่าการส่งออกของไทยจะหดตัว นอกจากนี้ ภาคการผลิตของไทยยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่สูงจากสินค้าจีนในตลาดโลก

การอ่อนค่าของเงินบาทและความเสี่ยงจากหนี้ธุรกิจ

ด้านค่าเงินบาท คาดว่าจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าเงินหยวนของจีนอาจอ่อนค่าลงถึง 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ปัญหาหนี้ธุรกิจเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องจับตา โดยเฉพาะหนี้ธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังเผชิญกับการแข่งขันจากต่างประเทศ และความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ซึ่งกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ค้าส่งค้าปลีก การท่องเที่ยว และภาคการผลิต

มาตรการที่รัฐบาลควรดำเนินการ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะนำให้รัฐบาลดำเนินการออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเสนอให้ผ่อนคลายกฎระเบียบภาครัฐและลดภาษีเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ การจัดประชุมนานาชาติ และการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในประเทศไทย

ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ: สิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง

ในด้านของภาคการเงิน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเตือนว่า การขยายตัวของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 2568 จะยังคงเติบโตช้า โดยคาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.6% จากปี 2567 ที่คาดว่าจะหดตัว 1.8% โดยปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูงเป็นแรงกดดันสำคัญให้สินเชื่อรายย่อยยังคงหดตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันหนี้ด้อยคุณภาพของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกที่มีปัญหาการแข่งขันรุนแรงและความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง

เศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยง ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน การชะลอตัวของการท่องเที่ยวและการส่งออก และปัญหาหนี้ธุรกิจที่ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวและเติบโตได้ในสภาวะที่ท้าทายนี้