เรือประมงไทยถูกจับกุมในน่านน้ำเมียนมา ปัญหาความตึงเครียดทางทะเล

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เรือประมงไทยชื่อ "มหาลาภธนวัฒน์ 4" ซึ่งอยู่ในน่านน้ำที่ชาวประมงไทยเชื่อว่าเป็นเขตน่านน้ำไทย ถูกเรือรบเมียนมาทำการยิงและจับกุม หลังจากเรือประมงไทยได้ล้ำเข้าไปในน่านน้ำเมียนมาประมาณ 3 ไมล์ทะเล ในขณะที่ชาวประมงไทยบางส่วนเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ของไทย โดยมีการเสียหายที่ตัวเรือและผู้บาดเจ็บ 2 รายจากเหตุการณ์นี้

จากการสอบสวนเบื้องต้นของ พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 (ผบ.ทรภ.3) พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดจากการที่เรือประมงไทยล้ำเข้าไปในน่านน้ำเมียนมา โดยฝั่งเมียนมามีมาตรการคุ้มครองและป้องกันในพื้นที่ทะเลของตน ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นการตอบสนองต่อการละเมิดเขตแดน โดยเมียนมาได้จับกุมเรือประมงไทย 1 ลำ (เรือ ส.เจริญชัย 8) พร้อมลูกเรือ 31 คน และนำไปที่เกาะย่านเชือกในเมียนมา

ในขณะที่ฝ่ายไทยได้พยายามให้ความช่วยเหลือและประสานงานเพื่อการส่งตัวลูกเรือที่ถูกจับกุมกลับสู่ประเทศไทยภายใน 2-3 วัน จากการสื่อสารทางการทูต ไทยได้ขอให้เมียนมาส่งเรือและลูกเรือคืนโดยเร็ว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนการประท้วงทางการทูต

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการส่งเรือ ต.274 เพื่อให้ความช่วยเหลือกับเรือประมงไทยที่ถูกยิงและหนีไปยังเกาะพยาม ซึ่งในระหว่างเหตุการณ์นี้ ชาวประมงบางรายต้องสละเรือและกระโดดลงทะเลเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี ขณะที่เรือประมงไทยอีก 2 ลำ (เรือดวงทวีผล 333 และเรือ ส.เจริญชัย 8) ถูกยึดโดยเรือรบเมียนมาและลากไปยังน่านน้ำของเมียนมา

ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ได้รับการช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลระนอง โดยการดำเนินการต่อไปคือการตรวจสอบความถูกต้องของการใช้อาวุธและการจับกุมของเมียนมาว่าเป็นการกระทำเกินขอบเขตหรือไม่ โดยเฉพาะในแง่ของอำนาจของฝ่ายไทยในการเข้าไปป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว

การเจรจากับเมียนมาจะดำเนินต่อไปเพื่อให้เรือและลูกเรือไทยกลับมาภายในไม่กี่วัน โดยหน่วยงานไทยยังคงประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นของเมียนมาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์และหลีกเลี่ยงความตึงเครียดเพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีการทับซ้อนของเขตแดนระหว่างสองประเทศ

ที่มา : BBC