TSMC อาจสูญเสียตำแหน่งลูกค้ารายใหญ่สุดให้กับ Nvidia หลังความต้องการชิป AI เพิ่มสูง
วันที่โพสต์: 4 มกราคม 2568 12:59:33 การดู 15 ครั้ง ผู้โพตส์ admin
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Apple ได้รับการยกย่องเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ TSMC มาอย่างยาวนาน โดยทาง TSMC เป็นผู้ผลิตชิปประมวลผล A-series ที่ใช้ใน iPhone และ iPad รวมถึงชิป M-series ที่ใช้ในบางรุ่นของ iPad และ Mac ล่าสุด Apple ยังได้รับการสนับสนุนจาก TSMC ในการผลิตชิปโมเด็ม 5G ที่ออกแบบโดย Apple เพื่อใช้แทนโมเด็ม Snapdragon 5G ใน iPhone SE 4 และ iPhone 17 Slim
ในปี 2024 Apple คิดเป็นสัดส่วน 25.2% ของรายได้ทั้งหมดของ TSMC ขณะที่ Nvidia มีสัดส่วน 10.1% ของรายได้ โดย Citi Securities ระบุว่าแนวโน้มอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยความต้องการชิป AI อาจผลักดันให้ Nvidia ขึ้นมาเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดแทน Apple ซึ่งคาดว่า Nvidia จะมีสัดส่วนรายได้จาก TSMC สูงถึง 20% ในปีนี้ และการเติบโตที่สูงมากนี้อาจลดลงสัดส่วนการสั่งซื้อของ Apple
นอกจากนี้ Nvidia ยังมีรายชื่อของลูกค้ารายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น และเมื่อตลาดเติบโตขึ้น Nvidia จะต้องสั่งผลิตชิปมากขึ้นจาก TSMC ส่งผลให้ปริมาณคำสั่งซื้อของ Nvidia สูงขึ้นและอาจทำให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ TSMC ในอนาคต
นักวิเคราะห์จาก Citi Securities ยังกล่าวว่า TSMC จะเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากความต้องการชิป AI แบบเฉพาะทาง (ASIC) ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าชิปส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ AI จะถูกผลิตที่ขนาด 3 นาโนเมตรของ TSMC ภายในปี 2025 ซึ่งจะช่วยเพิ่มราคาเฉลี่ยของแผ่นซิลิคอนของ TSMC และนำไปสู่การเพิ่มกำไรให้กับบริษัท
ถึงแม้ว่า Nvidia จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ Apple ยังคงเป็นลูกค้าสำคัญของ TSMC โดยมีรายงานว่า Apple ได้จองพื้นที่ผลิต 2 นาโนเมตรทั้งหมดของ TSMC สำหรับการผลิตชิป A20 และ A20 Pro ที่จะใช้ใน iPhone 18 รุ่นในปี 2026
TSMC ตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ที่ 20-25% โดยคาดว่าจะรักษากำไรสุทธิที่มากกว่า 50% ซึ่งจะได้รับแรงสนับสนุนจากการผลิตชิปสำหรับสมาร์ทโฟนและพีซีที่รองรับ AI ในตัว ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยมากกว่าการใช้ AI ผ่านคลาวด์ในศูนย์ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเติบโตของ Nvidia จะสูงขึ้น แต่อาจไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อ TSMC เนื่องจากมีรายงานลือว่า Nvidia และ Qualcomm อาจย้ายการผลิตไปยัง Samsung Foundry แม้ว่าจะมีปัญหากับผลผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าของ Samsung ในการผลิตชิปที่มีขนาดเล็กและซับซ้อน