ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนทวีความรุนแรง

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 – ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากปัจจัยความตึงเครียดในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯ อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธโจมตีรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งผลิตน้ำมันของรัสเซียและอุปทานน้ำมันทั่วโลก

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ 69.16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.14 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) ปรับเพิ่มเป็น 73.30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.26 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ สถานการณ์อุปทานน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการหยุดการผลิตจากแหล่ง Johan Sverdrup ในทะเลเหนือ ของบริษัท Equinor จากเหตุไฟฟ้าดับ รวมถึงการปรับลดการผลิตจากแหล่ง Tengiz ในคาซัคสถานเพื่อการซ่อมบำรุง ส่งผลให้อุปทานน้ำมันตึงตัว

ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจีนได้เพิ่มการนำเข้าน้ำมันเบนซินอย่างมาก ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการปรับลดอัตราการลดหย่อนภาษีจากการส่งออกน้ำมันของจีน

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกในปี 2025 จะยังคงสูงกว่าความต้องการถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้จะมีการลดการผลิตจาก OPEC+ ต่อไป.