ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "กองเร็ย" ถล่มไต้หวันรุนแรงสุดรอบ 30 ปี - น้ำท่วมสเปนคร่า 158 ชีวิต

ภัยธรรมชาติสร้างความเสียหายอย่างหนักใน 2 ประเทศ เมื่อไต้ฝุ่นกำลังแรง "กองเร็ย" พัดถล่มไต้หวันด้วยความเร็วลมสูงสุด 184 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี สร้างความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน

ความรุนแรงของพายุทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงถึง 10 เมตร พัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของเกาะ ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 400 เที่ยวต้องยกเลิก ไฟฟ้าดับกระทบประชาชนกว่า 250,000 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนกว่าหมื่นคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

ที่น่าวิตกคือ "กองเร็ย" เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 3 ที่พัดถล่มไต้หวันในปีนี้ และยังเกิดขึ้นในช่วงปลายปีซึ่งผิดปกติ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ขณะที่ทางฝั่งยุโรป สเปนเผชิญกับภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี เมื่อเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 158 ราย โดยเฉพาะในแคว้นบาเลนเซียที่มีผู้เสียชีวิตถึง 155 คน

ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นความเสียหายอย่างหนักในเมืองบาเลนเซีย รถยนต์จำนวนมากถูกน้ำพัดกองรวมกันจนกลายเป็นซากปรักหักพัง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานรัฐที่ออกคำเตือนล่าช้า หลังจากหลายพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำไปแล้วหลายชั่วโมง

รัฐบาลสเปนได้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ 3 วัน พร้อมระดมเจ้าหน้าที่กว่า 1,200 นาย เร่งค้นหาผู้สูญหายที่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ยังคงแปรปรวนและฝนที่ยังตกต่อเนื่องในบางพื้นที่

เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งในเอเชียและยุโรปครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้ภัยธรรมชาติทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น ท้าทายความพร้อมในการรับมือของทุกประเทศทั่วโลก