กรุงเทพฯ 25 เมษายน 2568 — กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะยังคงเผชิญกับสภาพอากาศร้อนทั่วประเทศ โดยบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง อาจเผชิญกับอากาศร้อนจัดควบคู่กับฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นบางจุด

ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจากอากาศร้อนจัด และควรระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นระยะ โดยสาเหตุหลักของสภาพอากาศในลักษณะนี้เกิดจากความกดอากาศต่ำที่ครอบคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมพื้นที่ดังกล่าว

ภาคใต้เจอฝนตกหนัก คลื่นสูงกลางทะเล

ในขณะที่ภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกต้องเผชิญกับฝนตกหนักและคลื่นสูงจากอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยคลื่นในทะเลอันดามันสูงประมาณ 1 เมตร และอาจสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กควรหลีกเลี่ยงการออกจากฝั่งในช่วงนี้เพื่อความปลอดภัย

เตือนพายุฤดูร้อนช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม

นอกจากนี้ กรมอุตุฯ คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 26 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม ประเทศไทยตอนบนจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ซึ่งอาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่าในบางพื้นที่ สาเหตุมาจากมวลอากาศเย็นจากจีนที่จะแผ่ลงมาปกคลุมเวียดนามและทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการปะทะกับอากาศร้อนที่ครอบคลุมประเทศไทยตอนบน

สถานการณ์ฝุ่นละอองยังคงน่าห่วง

ด้านคุณภาพอากาศ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีการสะสมฝุ่นละอองและหมอกควันในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดผ่านในพื้นที่มีความแรงไม่มากพอในการพัดพาออกจากพื้นที่

สรุปสภาพอากาศรายภาค

  • ภาคเหนือ: อากาศร้อนจัดบางแห่ง มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง 10% พร้อมลมกระโชกแรง

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง 20% พร้อมลมแรงบริเวณชัยภูมิ ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง

  • ภาคกลาง: ร้อนจัดหลายพื้นที่ มีฝน 20% โดยเฉพาะจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

  • ภาคตะวันออก: อากาศร้อนทั่วภูมิภาค มีฝนฟ้าคะนอง 40% และลมแรงบางจุด

  • ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: ฝนฟ้าคะนอง 40% มีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง

  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ฝนฟ้าคะนอง 60% มีฝนตกหนัก ควรระวังคลื่นลมแรง

  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง 20% ลมใต้พัดแรงในบางช่วง

ประชาชนทั่วประเทศควรติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมตัวรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในพื้นที่เสี่ยงภัยพายุฤดูร้อน