รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งให้สายการบินพาณิชย์ภายในประเทศ ระงับการรับมอบเครื่องบินโดยสารจากบริษัทโบอิ้งของสหรัฐอเมริกา รวมถึง ชะลอการสั่งซื้ออุปกรณ์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยคำสั่งนี้มีผลกระทบต่อสายการผลิตและการส่งมอบที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2568

แม้ไม่มีการประกาศเหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่าเป็นหนึ่งในมาตรการ ตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ของจีน ท่ามกลางบรรยากาศของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ ที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะในประเด็นด้านภาษีนำเข้าและการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอากาศยาน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าสนใจที่จีนเลือกทรยศต่อโบอิ้ง” พร้อมย้ำว่าเครื่องบินที่จีนยังไม่รับมอบนั้นล้วนเป็นคำสั่งซื้อที่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งแสดงถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพข้อตกลงระหว่างประเทศ

ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนได้ละเมิดข้อตกลงทางการค้าที่เคยลงนามร่วมกันในช่วงแรกของการบริหารประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดข้อขัดแย้งทางภาษีและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจโดยตรง ทั้งนี้ สหรัฐได้ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนสูงกว่า 145% ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในอัตราไม่น้อยกว่า 125%

การตัดสินใจของจีนครั้งนี้จึงสะท้อนความพยายามในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก และเสริมสร้างอำนาจต่อรองในเวทีการค้าโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทอเมริกันขนาดใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการบินที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในเวทีโลก