ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอล ออกจากตำแหน่ง จากกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถูกมองว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตตามรัฐธรรมนูญและละเมิดหลักการประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง คำตัดสินครั้งนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของวิกฤตทางการเมืองที่ปกคลุมประเทศมาเป็นเวลาหลายเดือน และจุดชนวนให้เกิดการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ภายใน 60 วัน

นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซูจะรับหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีจนกว่าจะมีการสาบานตนของผู้นำคนใหม่ ขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดให้ผู้สมัครลงทะเบียนเข้าชิงตำแหน่ง และอยู่ระหว่างการหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งเบื้องต้นมีการเสนอวันที่ 3 มิถุนายนเป็นวันลงคะแนนเสียง

ในสนามการเมือง นายอี แจมยอง ผู้นำพรรคประชาธิปไตยสายเสรีนิยม และอดีตผู้สมัครที่พ่ายแพ้ยุนในการเลือกตั้งครั้งก่อน กลายเป็นผู้มีคะแนนนิยมสูงสุด แม้ยังต้องเผชิญคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนฝั่งอนุรักษ์นิยมยังไม่มีตัวแทนที่โดดเด่น ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ยังเปิดกว้าง

ท่ามกลางคำตัดสินของศาล ประชาชนชาวเกาหลีใต้ต่างออกมาแสดงความเห็นทั้งสองฝั่ง กลุ่มที่ชุมนุมเรียกร้องให้ยุนลาออกต่างโห่ร้องดีใจเมื่อผลคำวินิจฉัยถูกประกาศ ในขณะที่ผู้สนับสนุนที่รวมตัวใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีต่างตกอยู่ในความเงียบ บางรายถึงขั้นร้องไห้และมีเหตุปะทะเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เช่น Human Rights Watch ได้ออกแถลงการณ์ชื่นชมคำตัดสินว่าเป็นชัยชนะของหลักนิติธรรมและความยุติธรรม ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของระบบประชาธิปไตยในเกาหลีใต้

ในแถลงการณ์ที่ออกโดยทีมกฎหมาย ยุนได้ขอโทษประชาชนว่าเขารู้สึกเสียใจและผิดหวังที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่ประชาชนคาดหวัง อย่างไรก็ตาม ทนายความของเขาได้วิจารณ์คำวินิจฉัยว่าเป็นการเมืองแทรกแซง พร้อมยืนยันเดินหน้าต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

ยุนยังคงต้องเผชิญการพิจารณาคดีอาญาในข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึก โดยมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้ ยุนเคยถูกจับกุมในเดือนมกราคม แต่ได้รับการปล่อยตัวในเดือนมีนาคมหลังศาลยกเลิกหมายควบคุมตัว ขณะนี้ กระบวนการไต่สวนคดีของเขาจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 เมษายน

การเมืองเกาหลีใต้กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้ง รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาจะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ความกดดันทางการทูตจากจีน และนโยบายการค้าจากสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ที่พุ่งสูงถึง 25%

ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ตอบรับข่าวการถอดถอนด้วยการแข็งค่าขึ้นทันทีถึง 1.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้น KOSPI จะปิดตัวในแดนลบเล็กน้อยก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่าคำวินิจฉัยที่เด็ดขาดของศาลช่วยลดความไม่แน่นอนในระยะสั้น และเปิดทางสู่กระบวนการฟื้นฟูประเทศอีกครั้ง

ขณะที่ภาพของยุนในที่ทำการรัฐและหน่วยงานราชการต่าง ๆ เริ่มถูกถอดลงตามขั้นตอนทางกฎหมาย และธงประจำตำแหน่งประธานาธิบดีที่โบกเคียงคู่กับธงชาติก็ถูกลดระดับลงแล้วในวันเดียวกัน เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดอำนาจของผู้นำที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

ที่มา reuters