เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา เกาหลีใต้ได้ประสบกับวิกฤติไฟป่าครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งไฟป่าได้ลุกลามอย่างรวดเร็วและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง โดยจนถึงวันที่ 26 มีนาคม จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 18 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 16 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสถึง 6 คน

ไฟป่าครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความสูญเสียในเรื่องของชีวิตและสุขภาพของประชาชน ยังทำลายโบราณสถานสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะวัดโกอึนซา ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งอยู่ในจังหวัดคย็องซังเหนือ ไฟได้เผาวัดจนเสียหาย โดยวัดโกอึนซาถือเป็นหนึ่งในมรดกสำคัญของเกาหลีใต้

ทางการได้ประกาศเตือนภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง รวมถึงหมู่บ้านฮาเฮวในจังหวัดคย็องซังเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ให้ประชาชนในพื้นที่อพยพออกจากบริเวณที่มีความเสี่ยงจากไฟป่า

ในส่วนของการรับมือกับวิกฤติไฟป่า ทางการเกาหลีใต้ได้ระดมทหารมากกว่า 5,000 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์จำนวน 146 ลำ เพื่อควบคุมสถานการณ์และดับไฟที่ยังคงลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยการดับไฟในครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การใช้กระแสลมแรงที่เพิ่มขึ้น ทำให้การควบคุมไฟต้องมีการใช้เทคนิคที่ซับซ้อนขึ้น

ไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ โดยไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในเดือนเมษายน ปี 2543 ซึ่งทำให้พื้นที่กว่า 23,913 เฮกตาร์ หรือประมาณ 59,090 เอเคอร์ ในภาคตะวันออกของประเทศได้รับความเสียหาย.