เหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของสายการบิน Air Busan เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ที่สนามบินนานาชาติกิมแฮในเกาหลีใต้ ถูกสันนิษฐานว่าเกิดจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองที่ผู้โดยสารนำขึ้นเครื่องบิน โดยแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองนี้มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งอาจเกิดความร้อนสูงจนทำให้เกิดเพลิงไหม้

การสืบสวนเบื้องต้นของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้พบว่า ไฟไหม้อาจเกิดจากการชำรุดของฉนวนภายในแบตเตอรี่ของแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง ซึ่งถูกเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ จุดที่เพลิงเริ่มลุกไหม้ โดยเศษซากของแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองที่พบมีรอยไหม้จากไฟ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุใดแบตเตอรี่ถึงชำรุด

เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้โดยสาร 3 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่โชคดีที่ไม่เกิดความเสียหายร้ายแรงกับชีวิตหรือเครื่องบิน เครื่องบินที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบิน Airbus A321ceo ซึ่งใช้โดยสารภายในประเทศ

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง แต่กลับสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงจากการพกแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองบนเครื่องบิน ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา สายการบินทั่วโลกได้มีมาตรการห้ามนำแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองในสัมภาระที่ฝากใต้เครื่องบิน เนื่องจากความเสี่ยงจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อาจเกิดการชำรุดและก่อให้เกิดไฟไหม้ได้

โดยในปี 2016 องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ออกมาตรการห้ามขนส่งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากแบตเตอรี่ดังกล่าว

หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นกับ Air Busan สายการบินนี้ได้ประกาศมาตรการใหม่ โดยห้ามผู้โดยสารนำแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองใส่ในสัมภาระที่นำขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากมีการพบเหตุแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองที่เกิดความร้อนสูงบ่อยครั้งในช่วงหลัง

นอกจาก Air Busan แล้ว สายการบินอื่นๆ เช่น China Airlines, Thai Airways และ Singapore Airlines รวมถึง Scoot ก็ได้ประกาศกฎใหม่ในการห้ามการใช้และการชาร์จแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองบนเครื่องบิน โดยกฎเหล่านี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศมาตรการใหม่ให้ผู้โดยสารที่เดินทางในประเทศต้องพกแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองและที่ชาร์จไปกับตัวเอง แทนที่จะเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองในช่วงเดินทางทางอากาศ.

เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนให้ผู้โดยสารทุกคนต้องระมัดระวังในการพกพาแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรองขึ้นเครื่องบิน และควรปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนเครื่องบิน

ที่มา : BBC