เมืองโอฟุนาโตะ, ญี่ปุ่น – เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 นายคิโยชิ ฟุชิกามิ นายกเทศมนตรีเมืองโอฟุนาโตะได้ประกาศว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าที่ลุกไหม้ในภูเขาชนบทของเมืองได้แล้ว หลังจากที่ต้องต่อสู้กับไฟป่าครั้งนี้มาเป็นเวลานานเกือบสองสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้คนในพื้นที่อย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบ้านเรือนกว่า 210 หลังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย ขณะที่ชาวบ้านกว่า 4,200 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

นายฟุชิกามิกล่าวในงานแถลงข่าวว่า "หลังจากการสำรวจทางอากาศและการประเมินจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เราขอยืนยันว่าไฟป่าทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และไม่มีความเสี่ยงที่จะลุกลามเพิ่มเติมออกไปในตอนนี้"

การควบคุมไฟป่าครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทีมกู้ภัยที่ได้ทำงานอย่างหนักตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ด้วยการใช้เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บินฉีดน้ำจากอากาศ และการดำเนินการด้านการอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

ไฟป่าครั้งนี้ทำลายพื้นที่ไปกว่า 2,900 เฮกตาร์

ไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นไฟป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 50 ปีในประเทศญี่ปุ่น โดยทำลายพื้นที่ไปมากกว่า 2,900 เฮกตาร์ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดเมืองแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก ซึ่งทำลายสถิติไฟป่าครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเกาะฮอกไกโดเมื่อปี 2518 ที่เผาผลาญพื้นที่ไปเพียง 2,700 เฮกตาร์

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2567 และกำลังเผชิญกับสภาพอากาศแห้งแล้งที่ทำลายสถิติ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองโอฟุนาโตะ ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฝนตกเพียง 2.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ขณะที่ค่าเฉลี่ยฝนตกประจำเดือนปกติคือ 41 มิลลิเมตร สภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้การเกิดไฟป่าเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น และไฟป่าครั้งนี้ได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นวิกฤติ

การอพยพและความเสียหายที่เกิดขึ้น

การอพยพประชาชนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความสูญเสียจากไฟป่าครั้งนี้ โดยชาวบ้านกว่า 4,200 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย หลังจากที่ไฟป่าลุกลามไปอย่างรวดเร็ว หลายครอบครัวต้องหลบหนีจากบ้านเรือนที่ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมและระบบนิเวศของพื้นที่ชนบทที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าในครั้งนี้

เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งศูนย์อพยพและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า รวมถึงการจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และที่พักชั่วคราวให้กับผู้ที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่

ความช่วยเหลือจากฝนและความพยายามของเจ้าหน้าที่

แม้ว่าไฟป่าจะเผาผลาญพื้นที่ไปจำนวนมาก แต่การช่วยเหลือจากฝนที่ตกในช่วงสัปดาห์ก่อนช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้อย่างมาก ฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้มีส่วนสำคัญในการลดความรุนแรงของไฟป่า ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมไฟได้เร็วขึ้น การร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมถึงการสนับสนุนจากทหารและหน่วยดับเพลิงที่เชี่ยวชาญในการรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การควบคุมไฟสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

นายฟุชิกามิกล่าวเสริมว่า "ฝนที่ตกลงมาในช่วงที่ผ่านมาเป็นการช่วยเหลือที่สำคัญมาก และเราเชื่อว่าหากไม่มีฝนเข้ามาช่วย อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ในการควบคุมสถานการณ์"

มองไปข้างหน้า: การฟื้นฟูและเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต

แม้ว่าผู้เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมไฟป่าได้แล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอย่างยาวนาน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น รวมถึงการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสียหายไปจากไฟป่า นอกจากนี้ยังมีการวางแผนและเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต โดยการเพิ่มมาตรการป้องกันและการจัดการภัยพิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

การควบคุมไฟป่าครั้งนี้จึงเป็นการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ทั้งในด้านความสามารถในการรับมือกับภัยพิบัติของเจ้าหน้าที่และการเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ภัยพิบัติในอนาคต

ที่มา : channelnewsasia