วันนี้ (2 มีนาคม 2568) มีรายงานว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนของไทยในเดือนมกราคม 2568 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ารวม 145,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การส่งออกมีมูลค่า 78,037 ล้านบาท ขยายตัว 3.8% ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 67,102 ล้านบาท ขยายตัว 1.5% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 10,935 ล้านบาท

สำหรับการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มีมูลค่ารวม 83,797 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% แบ่งเป็นการส่งออก 50,528 ล้านบาท ขยายตัว 0.7% และการนำเข้า 33,269 ล้านบาท ขยายตัว 3.3% ทำให้ไทยเกินดุลการค้า 17,260 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว มีมูลค่าสูงสุดที่ 25,228 ล้านบาท ตามมาด้วย มาเลเซีย 24,256 ล้านบาท เมียนมา 18,821 ล้านบาท และกัมพูชา 15,492 ล้านบาท

สินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 4,209 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูป 1,622 ล้านบาท และสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 1,323 ล้านบาท ขณะที่การค้าผ่านแดนไปยังประเทศที่สามมีมูลค่ารวม 61,343 ล้านบาท ขยายตัว 4.2% โดยจีนเป็นตลาดใหญ่สุด มูลค่าการค้าสูงถึง 34,622 ล้านบาท ขยายตัว 10.6% ตามมาด้วยสิงคโปร์ 8,775 ล้านบาท และเวียดนาม 5,216 ล้านบาท

สินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ 3,598 ล้านบาท ยางแท่ง TSNR 3,140 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ยาง 2,649 ล้านบาท โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนที่ขยายตัวสูงถึง 18.0% โดยมีสินค้าหลัก เช่น ยางสังเคราะห์ 2,599 ล้านบาท ขยายตัว 124.3% ลำไยสด 1,977 ล้านบาท ขยายตัว 127.8% และยางแท่ง TSNR 1,337 ล้านบาท ขยายตัว 14.4%

ในส่วนของการค้าชายแดนกับเมียนมา ขยายตัว 9.3% โดยเฉพาะการส่งออกที่เติบโต 13.9% สินค้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูป กากถั่วเหลือง และบุหรี่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาผลกระทบจากสถานการณ์การปราบปรามกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน ซึ่งอาจส่งผลต่อการค้าบางส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ 2568

รัฐบาลยังคงเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมผลักดันมาตรการอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์และการค้าชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการไทยต่อไป

ที่มา : thaigov