จับกุมและส่งตัว 119 คนไทยแก๊งอาชญากรรมออนไลน์กลับดำเนินคดีในไทย
วันที่โพสต์: 1 มีนาคม 2568 14:33:43 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติเป็นหนึ่งในขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ที่กำลังเติบโตและแพร่ระบาดในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินโดยอาศัยการโทรศัพท์หรือการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ โดยใช้กลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ เช่น การอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อและให้ข้อมูลทางการเงินหรือโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มผู้กระทำผิด
แก๊งเหล่านี้มักมีการเชื่อมโยงกันข้ามชาติ โดยมีการตั้งฐานปฏิบัติการในหลายประเทศ อาทิเช่น ไทย กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการกระทำผิด รวมถึงการสร้างเว็บไซต์ปลอมและแอปพลิเคชันที่หลอกลวงเหยื่อได้อย่างมืออาชีพ การหลอกลวงโดยการใช้โทรศัพท์มือถือหรือแอปพลิเคชันมักทำให้ผู้เสียหายไม่ทันระวังตัว และตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางการเงิน
แม้ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้จะพยายามหลบหลีกการจับกุมโดยการย้ายสถานที่และการใช้วิธีการที่หลากหลายในการหลอกลวง แต่การจับกุมของทางการไทยและกัมพูชาก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปราบปรามและจัดการกับแก๊งเหล่านี้อย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นภัยต่อสังคมในปัจจุบัน.
วันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อรับตัว 119 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมในข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือระหว่างตำรวจไทยและกัมพูชาในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ที่มีการหลอกลวงทางออนไลน์โดยใช้เครือข่ายที่กระจายอยู่ในหลายประเทศ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากตำรวจทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันบุกทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายหลายรายพร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ทั้งกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยคนไทยจำนวน 119 คน ซึ่งทั้งหมดถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชนผ่านทางโทรศัพท์และเว็บไซต์หลอกลวง
ภายหลังจากการสอบสวนของทางการกัมพูชา ซึ่งใช้เวลานานในการตรวจสอบข้อมูลและการรวบรวมหลักฐาน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับคนไทยทั้ง 119 คน ในข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะการร่วมกันทำหน้าที่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีต่างๆ รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย
หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้น ทางการกัมพูชาจึงได้ตัดสินใจเนรเทศคนไทยทั้ง 119 คนกลับมายังประเทศไทย โดยส่งตัวพวกเขามาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังบูรพา
การส่งตัวครั้งนี้ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ทั้งจากตำรวจภูธร จ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่าน ตม.อรัญประเทศ โดยหลังจากได้รับตัวครบ 119 คน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอนตามกฎหมายไทย โดยจะมีการคัดกรองและสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ต้องหาทุกคนจะได้รับการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในกลุ่มผู้ถูกจับกุมมีหมายจับจำนวน 7 คน รวมทั้งสิ้น 15 หมายจับ โดยมีทั้งชาย 60 คนและหญิง 59 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มีความหลากหลายทั้งในด้านจำนวนและความสามารถในการหลอกลวงประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการสืบสวนพบว่าแก๊งนี้มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีการใช้กลยุทธ์การหลอกลวงผ่านการโทรศัพท์และการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “เราจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวดทั้งในข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ อั้งยี่ซ่องโจร เพื่อเป็นการเตือนสังคมและไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต เรามั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถสืบสวนจนพบข้อมูลที่สำคัญและดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในอนาคต”
พล.ต.อ.ธัชชัยยังกล่าวเสริมว่า “ทางการกัมพูชาได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด และพบว่าไม่มีการบังคับหรือกักขังผู้ต้องหาแต่ละราย ทุกคนไม่ได้ตกเป็นเหยื่อ แต่มีส่วนร่วมในเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการหลอกลวงผู้คน และสิ่งที่เราต้องการคือการยุติขบวนการนี้ เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในการหลอกลวงคนไทยอีกต่อไป”
หลังจากนี้ คนไทยทั้ง 119 คนจะถูกนำตัวไปยังศูนย์คัดกรองที่ค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ เพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมและให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนที่จะส่งตัวไปยังศาลเพื่อตัดสินคดีตามลำดับ.
แท็ก: แก๊งอาชญากรรมออนไลน์