อุบัติเหตุสลด! รถชน 3 คัน หน้า สภ.ทุ่งหว้า สตูล เสียงดังสนั่น ดับ 1 เจ็บ 2

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบริเวณหน้า สภ.ทุ่งหว้า ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นเหตุให้รถชนกันถึงสามคันกลางถนน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย โดยเสียงชนดังสนั่นทำให้ประชาชนในละแวกใกล้เคียงต่างตกใจและรีบออกมาดูเหตุการณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่มไทร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รีบเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

จากการตรวจสอบพบว่ารถที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้ประกอบด้วย รถเก๋งฮอนด้า สีดำ ทะเบียน กจ 4379 สตูล ขับโดย ร.ต.ท.ว่าหลิด เอียดดี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งหว้า โดยขณะเกิดเหตุได้ชะลอความเร็วเพื่อเตรียมเลี้ยวขวาเข้าสู่ สภ.ทุ่งหว้า ในจังหวะนั้นเองรถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ ทะเบียน 81-3466 ตรัง ซึ่งขับโดยนายวุฒิชัย ปานเขียว ได้ขับมาด้วยความเร็วและพุ่งชนท้ายรถเก๋งอย่างแรง ส่งผลให้รถเก๋งเสียหลักกระเด็นข้ามเลนไปยังฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 70-9172 สงขลา ขับโดยนายไกรวิทย์ รอดแก้ว อายุ 41 ปี ซึ่งกำลังวิ่งสวนทางมาพอดี พุ่งชนเข้ากับรถเก๋งที่กระเด็นมาด้วยความแรง ก่อนที่ตัวรถบรรทุก 10 ล้อจะเสียหลักพลิกตกร่องกลางถนน ทับรถเก๋งบางส่วน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวเป็นอัมพาตชั่วขณะ

แรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ผู้ขับขี่รถบรรทุก 10 ล้อคือนายไกรวิทย์ รอดแก้ว ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่ภายในซากรถ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อนำร่างออกมาเพื่อส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ร.ต.ท.ว่าหลิด เอียดดี คนขับรถเก๋ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง และนายวุฒิชัย ปานเขียว คนขับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ที่มีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งหว้าเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาเป็นการด่วน

ภายหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งเคลียร์พื้นที่โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการเคลื่อนย้ายซากรถออกจากบริเวณถนน และอำนวยความสะดวกให้การจราจรกลับสู่สภาวะปกติ ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพร้อมทั้งเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง เพื่อนำไปใช้ในการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุอาจเกิดจากการที่รถพ่วงเทรลเลอร์ขับมาด้วยความเร็วสูง ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทันเมื่อต้องชะลอความเร็ว ส่งผลให้พุ่งชนท้ายรถเก๋งของ ร.ต.ท.ว่าหลิด เอียดดี และทำให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งสองรายหลังจากอาการดีขึ้น รวมถึงตรวจสอบสภาพรถและระบบเบรกของรถพ่วงเทรลเลอร์ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะการรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าและลดความเร็วเมื่อเข้าใกล้ทางแยกหรือสถานที่ที่มีการจราจรคับคั่ง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้