การฉ้อโกงในสิงคโปร์พุ่งสูง สร้างความเสียหายกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2567
วันที่โพสต์: 26 กุมภาพันธ์ 2568 12:57:38 การดู 0 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ในปี 2567 สิงคโปร์ประสบปัญหาการฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีมูลค่าความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ถึง 1,100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 2.78 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 70.6% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีความเสียหายอยู่ที่ 651.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และจำนวนคดีที่เกิดขึ้นในปีนี้ยังเพิ่มขึ้นประมาณ 11% รวมทั้งหมด 51,501 คดี ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของกลโกงออนไลน์และวิธีการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากขึ้นในสิงคโปร์
การหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับ "คริปโทเคอร์เรนซี" เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความเสียหายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคิดเป็น 24.3% ของความเสียหายทั้งหมด และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากปี 2566 สิ่งนี้อาจสะท้อนถึงการขยายตัวของตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้เกิดช่องทางใหม่ๆ ในการหลอกลวงผู้ลงทุน ซึ่งเป็นช่องทางที่ยากต่อการตรวจสอบและป้องกัน
ในขณะที่การฉ้อโกงในหมวด "อีคอมเมิร์ซ" ยังคงเป็นประเภทที่พบมากที่สุด โดยมีจำนวนคดีถึง 11,665 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 440 ล้านบาท กลโกงในรูปแบบนี้มักเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการที่ไม่มีจริง หรือการจัดส่งสินค้าที่ไม่ได้ตามที่โฆษณาไว้ ส่งผลให้ผู้บริโภคสูญเสียเงินจำนวนมาก
ทั้งนี้ แม้กว่า 70% ของคดีมีมูลค่าความเสียหายไม่ถึง 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.26 แสนบาท) แต่การเพิ่มขึ้นของมูลค่าความเสียหายรวมมาจากคดีบางประเภทที่มีมูลค่าความเสียหายสูง โดย 4 คดีใหญ่รวมกันแล้วคิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึง 6,000 ล้านบาท หรือ 21.4% ของความเสียหายทั้งหมด ซึ่งสะท้อนถึงการที่ผู้หลอกลวงมักเลือกใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนและมีมูลค่าหมายความว่าเหยื่อในบางกรณีอาจต้องสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก
น่าสังเกตว่าแม้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 8.4% ของผู้เสียหาย แต่กลับพบว่ากลุ่มนี้มีมูลค่าความเสียหายสูงสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอายุอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการขาดความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและการหลอกลวงในรูปแบบใหม่ๆ ที่มักเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้สูงอายุอาจตกเป็นเป้าหมายของผู้หลอกลวงที่ใช้วิธีการหลอกลวงทางโทรศัพท์ หรือการหลอกลวงผ่านการติดต่อออนไลน์ที่ดูเหมือนเป็นทางการ
เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ตำรวจสิงคโปร์ได้เพิ่มความพยายามในการแก้ไขสถานการณ์ โดยสามารถกู้เงินที่ถูกฉ้อโกงได้มากกว่า 4,600 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในบางส่วนของการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยในเดือนมกราคม 2568 สิงคโปร์ได้ออกกฎหมายใหม่ที่ให้อำนาจแก่ตำรวจในการอายัดบัญชีธนาคารของผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของกลโกง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ความพยายามของสิงคโปร์ในการจัดการกับปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ไม่เพียงแค่การดำเนินคดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการระมัดระวังในการใช้บริการออนไลน์ การติดตามและตรวจสอบการฉ้อโกงอย่างเข้มงวด และการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางการเงินที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัล
แท็ก: การฉ้อโกง