ท่าขี้เหล็กประกาศตารางจ่ายไฟ-ตัดไฟ รับมือวิกฤติพลังงาน หลังไทยตัดไฟ-ลาวลดกำลัง

หลังจากที่การขาดแคลนไฟฟ้ากลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ ล่าสุด ท่าขี้เหล็กได้ประกาศตารางจ่ายไฟและตัดไฟใหม่เพื่อจัดการกับสถานการณ์พลังงานที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ เนื่องจากการตัดไฟของไทยในพื้นที่ท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีผลกระทบต่อการใช้พลังงานในพื้นที่ ส่งผลให้หลายครัวเรือนและธุรกิจในท่าขี้เหล็กต้องประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าอย่างหนัก

แม้ว่าทางการท่าขี้เหล็กจะพยายามเสริมไฟฟ้าจากลาวเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว แต่ล่าสุดประเทศลาวก็ได้ปรับลดการจ่ายไฟฟ้าลงเพื่อรับมือกับปัญหาพลังงานภายในประเทศของตนเอง ทำให้ท่าขี้เหล็กจำเป็นต้องออกมาตรการใหม่เพื่อจัดสรรการใช้ไฟฟ้าให้เกิดความเป็นธรรมและเพียงพอต่อความต้องการ โดยประกาศตารางการจ่ายไฟฟ้าที่ยืดหยุ่นตามกลุ่มประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนในวงกว้าง

ตารางจ่ายไฟฟ้าล่าสุดสำหรับท่าขี้เหล็กมีการแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม 1 ที่มีสีเหลืองเป็นตัวแทนซึ่งจะได้รับไฟฟ้าทั้งหมด 14 ชั่วโมงต่อวัน และกลุ่ม 2 ซึ่งจะได้รับไฟฟ้าจำกัดเพียง 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยรายละเอียดของการจ่ายไฟฟ้ามีดังนี้:

สำหรับกลุ่ม 1 หรือกลุ่มสีเหลือง จะได้รับไฟฟ้าทั้งหมด 14 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลักๆ คือ ช่วงเวลา 00:00 - 05:00 น. ที่ให้ไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 5 ชั่วโมง, ช่วงเวลา 10:00 - 15:00 น. ที่ให้ไฟฟ้าอีก 5 ชั่วโมง, และช่วงเวลา 20:00 - 00:00 น. ที่ไฟฟ้าจะให้บริการอีก 4 ชั่วโมง

ในขณะที่กลุ่ม 2 หรือกลุ่มสีเขียวจะได้รับไฟฟ้ารวมทั้งหมด 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยจะแบ่งการจ่ายไฟออกเป็น 2 ช่วงหลักๆ คือ ช่วงเวลา 05:00 - 10:00 น. ให้ไฟฟ้า 5 ชั่วโมง และช่วงเวลา 15:00 - 20:00 น. อีก 5 ชั่วโมง

สถานการณ์การขาดแคลนไฟฟ้าในท่าขี้เหล็กไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเมืองใหญ่หลายแห่งในภูมิภาคอาเซียนก็ต้องรับมือกับปัญหาดังกล่าวอย่างเช่นเมืองย่างกุ้งในประเทศเมียนมาร์ ที่ต้องใช้มาตรการเดียวกันในการจัดสรรไฟฟ้า โดยเฉพาะในใจกลางเมืองที่มีการจำกัดการจ่ายไฟฟ้าเพียงแค่วันละ 4 ชั่วโมง ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 รอบเท่านั้น ขณะที่พื้นที่ในชานเมืองกลับได้รับการจ่ายไฟฟ้าน้อยลงไปอีก

การที่ท่าขี้เหล็กต้องออกมาตรการจำกัดการใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่หรือความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการพิจารณาการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินหรือโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขวิกฤตินี้ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับปัญหาพลังงานในภูมิภาค

การตัดสินใจดังกล่าวอาจจะส่งผลดีในระยะยาวหากสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับในระยะสั้น ภาคประชาชนในท่าขี้เหล็กยังคงต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตที่เกิดจากการจำกัดการใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้