ทองคำทะยานแตะจุดสูงสุดประวัติการณ์ ท่ามกลางความกังวลนโยบายการค้าทรัมป์ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 2,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการซื้อขายวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,798.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงหลังสหรัฐส่งสัญญาณเตรียมใช้มาตรการกีดกันทางการค้ากับประเทศคู่ค้าหลัก ทองคำในตลาดสปอตปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% แตะที่ 2,794.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เวลา 18.57 น. ตามเวลากรีนิช ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำในตลาดสหรัฐทะยานขึ้น 1.8% มาอยู่ที่ 2,845.20 ดอลลาร์ รอยเตอร์สรายงาน "ความไม่แน่นอนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าและนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์กำลังเพิ่มสูงขึ้น แรงซื้อทางเทคนิครอบใหม่กำลังหลั่งไหลเข้าตลาด" จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals กล่าว ปัจจัยหนุนราคาทองคำมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ที่ลดลง 0.2% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าเดือน ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับแผนขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐต่อเม็กซิโก แคนาดา และอาจรวมถึงจีน ซูซานนาห์ สตรีเตอร์ จาก Hargreaves Lansdown ระบุว่า "นักลงทุนกำลังมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพื่อเป็นที่หลบภัยท่ามกลางความไม่แน่นอน" ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมล่าสุด ด้านตลาดโลหะมีค่าอื่นๆ ราคาเงินพุ่งขึ้น 2.5% แตะ 31.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลตตินัมเพิ่มขึ้น 2.5% อยู่ที่ 970.15 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมปรับตัวขึ้น 2.6% แตะ 987.25 ดอลลาร์ สมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอนรายงานว่า ตลาดทองคำสหรัฐมีการซื้อขายในระดับพรีเมียมนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดี และทางสมาคมกำลังร่วมมือกับ CME Group และหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ที่ 2,798.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะปรับลดลงเล็กน้อยมาปิดที่ 2,794.42 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.3% ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำในตลาดสหรัฐทะยานขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2,845.20 ดอลลาร์ รอยเตอร์สรายงาน

นักวิเคราะห์ชี้ว่าความไม่แน่นอนทางการค้าเป็นปัจจัยหนุนหลัก หลังทำเนียบขาวเผยประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันเสาร์นี้ พร้อมส่งสัญญาณอาจพิจารณามาตรการคล้ายกันกับจีน

"ตลาดกำลังสะท้อนความวิตกกังวลต่อนโยบายการค้าและการต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์ ขณะที่แรงซื้อทางเทคนิครอบใหม่ก็หนุนให้ราคาทองและโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้น" จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals กล่าว

การอ่อนค่าของดอลลาร์ที่ลดลง 0.2% และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน ยิ่งช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุดตามคาด

ด้านตลาดโลหะมีค่าอื่นๆ ก็ปรับตัวขึ้นตามทองคำ โดยราคาเงินและแพลตตินัมพุ่งขึ้น 2.5% แตะที่ 31.56 และ 970.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ ส่วนแพลเลเดียมปรับเพิ่ม 2.6% มาอยู่ที่ 987.25 ดอลลาร์

สมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอนรายงานว่าตลาดทองคำสหรัฐมีการซื้อขายในระดับพรีเมียมนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยทางสมาคมกำลังประสานงานกับ CME Group และหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด30 มกราคม 2568