อุบัติเหตุรถอีแต๋นพุ่งชนเสาไฟฟ้า เสียหลักลงข้างทาง คนขับถูกทับเสียชีวิตคาที่

บุรีรัมย์ – วันที่ 30 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 12.14 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุดอำเภอคูเมือง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถอีแต๋นพุ่งชนเสาไฟฟ้าเสียหลักลงข้างทาง บริเวณบ้านโนนมาลัย ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที หลังได้รับแจ้งเหตุ หน่วยกู้ภัยคูเมือง 03, 07, 08, 09, 13 และ 19 พร้อมด้วยรถยกและอุปกรณ์ตัดถ่าง ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบรถอีแต๋นอยู่ในสภาพพลิกคว่ำข้างทาง ด้านหน้ารถมีร่องรอยชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างรุนแรง ตัวรถได้รับความเสียหาย ส่วนผู้ขับขี่ซึ่งเป็นชายวัยประมาณ 50-60 ปี ถูกตัวรถทับบริเวณหน้าอก ส่งผลให้เสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สามารถนำร่างออกจากตัวรถได้ทันที จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง โดยใช้ปากถ่างเพื่อยกรถออกจากร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจึงสามารถนำร่างออกมาได้ จากนั้นได้แจ้งแพทย์เวรและพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง ให้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุที่แน่ชัดได้ แต่จากสภาพความเสียหายของรถและลักษณะการชน คาดว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไปจนเสียหลัก หลบหลุมหรือสิ่งกีดขวางบนถนนจนควบคุมรถไม่อยู่ หรืออาจเป็นไปได้ว่าผู้ขับขี่มีปัญหาสุขภาพเฉียบพลัน เช่น วูบหมดสติในระหว่างขับขี่ ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ภายหลังการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลคูเมืองเพื่อทำการเอกซเรย์และตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม ก่อนจะส่งมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม โดยอาจมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงสอบถามพยานที่อยู่ในพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลและหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย แม้ว่ารถอีแต๋นจะเป็นพาหนะที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในพื้นที่ชนบท แต่ก็มีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะระบบเบรกที่ไม่ดีเท่ารถยนต์ทั่วไป และการทรงตัวที่ไม่มั่นคง รวมถึงไม่มีมาตรการความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัยหรือถุงลมนิรภัย ซึ่งทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วมีโอกาสได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตสูงกว่ารถประเภทอื่น ดังนั้นผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถอีแต๋นมากขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูงโดยไม่จำเป็น ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะระบบเบรกและพวงมาลัย และควรใช้เส้นทางที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นกรณีนี้อีก

สุดท้ายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนให้เพิ่มความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต