ปภ.ช. สั่งการเข้มงวด จัดการการเผา 100% พร้อมรายงานจับกุมทุกวัน รับมือฝุ่น PM2.5 ระลอกใหม่
วันที่โพสต์: 30 มกราคม 2568 17:34:51 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ admin
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ประกาศความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่คาดว่าจะกลับมารุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ โดยสั่งให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเข้มงวดในการป้องกันและควบคุมการเผาในทุกพื้นที่ รวมถึงการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการเผาในที่โล่งให้ได้ 100% ตามนโยบาย "ป้องกัน ปราบปราม สนับสนุน ลดฝุ่น" พร้อมรายงานผลการดำเนินการทุกวัน
โดยที่ประชุมที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับข้อมูลที่ระบุว่า ตั้งแต่วันนี้ (30 ม.ค.) ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ประเทศไทยจะเผชิญกับสภาวะอากาศปิดระลอกใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าฝุ่นในหลายพื้นที่ของประเทศเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเผาป่าและการเผาในที่โล่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปภ.ช. ได้กำชับให้ทุกจังหวัดร่วมมือกันจัดการกับปัญหาการเผาในพื้นที่ของตนเอง โดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นการเผาในภาคการเกษตรหรือการเผาขยะในที่โล่ง โดยต้องมีการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรายงานข้อมูลการจับกุมทุกวันต่อที่ประชุม ปภ.ช. ซึ่งหากพบว่าเจ้าหน้าที่ใดละเลยการดำเนินการ จะมีการรายงานให้ผู้บัญชาการ ปภ.ช. ทราบเพื่อพิจารณามาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติม
กระทรวงสาธารณสุขระดมทีมแพทย์ดูแลประชาชน
นอกจากการจัดการกับการเผาแล้ว ปภ.ช. ยังได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดตั้งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจและโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 มากที่สุด
กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานว่า ขณะนี้มีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดประมาณ 178,000 ราย ซึ่งประกอบด้วยเด็กเล็ก 29,982 ราย, ผู้สูงอายุ 137,622 ราย, หญิงตั้งครรภ์ 2,305 ราย, ผู้มีโรคหัวใจ 3,857 ราย และผู้มีโรคทางเดินหายใจ 5,007 ราย โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้จัดตั้งทีมแพทย์ฉุกเฉินลงพื้นที่ในระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมให้คำแนะนำและดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้แจกจ่าย หน้ากากอนามัย ไปแล้วกว่า 180,000 ชิ้น และหน้ากาก N95 กว่า 1,100,000 ชิ้น ให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง และสำหรับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการแจกหน้ากากอนามัยในกรุงเทพฯ โดยสำนักอนามัยได้แจกจ่ายไปแล้วกว่า 377,000 ชิ้น ข้อมูลจากการวิจัยทางการแพทย์ชี้ว่า การใส่หน้ากาก N95 สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ดีกว่า แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์ การใส่หน้ากากอนามัยธรรมดาก็สามารถช่วยกรองฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง หากจำเป็นสามารถใส่หน้ากากสองชั้นเพื่อป้องกันฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น
แนวทางป้องกันสำหรับประชาชน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคหัวใจหรือโรคทางเดินหายใจ ซึ่งควรจำกัดการออกกลางแจ้งเท่าที่จำเป็น หากพบอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม หายใจลำบาก หรือมีอาการทางผิวหนังอย่างผื่นแดงและตาแดง ควรรีบพบแพทย์ทันทีที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
ปฏิบัติการเผชิญหน้าฝุ่นละออง
การจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ได้เป็นเพียงการควบคุมการเผาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อร่วมกันลดมลพิษและปกป้องสุขภาพของประชาชนในช่วงวิกฤตนี้ ทั้งนี้ ปภ.ช. จะยังคงดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์ และป้องกันผลกระทบจากฝุ่นให้ดีที่สุด โดยจะมีการติดตามผลทุกวันและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แท็ก: ป้องกันฝุ่น