ฮามาสเตรียมปล่อยตัวทหารหญิงอิสราเอล 4 คน พร้อมนักโทษปาเลสไตน์ 200 คน ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง

กาซา 25 มกราคม – กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นขบวนการติดอาวุธของชาวปาเลสไตน์ เตรียมปล่อยตัวทหารหญิงของอิสราเอล 4 คนในวันนี้ ภายใต้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษปาเลสไตน์จำนวน 200 คน โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายที่มีเป้าหมายในการยุติสงครามที่ดำเนินมาตลอด 15 เดือน ในฉนวนกาซา

ทหารหญิงทั้ง 4 คน ได้แก่ คารินา อาเรฟ, ดานีลา กิลบัว, นามา เลวี และ ลิรี อัลแบค ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2024 ในช่วงที่เกิดการโจมตีโดยกลุ่มฮามาสที่เข้ามาบุกสถานที่ประจำการของทหารอิสราเอลที่บริเวณชายแดนใกล้กับฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการโจมตีที่ทำให้หลายชีวิตสูญเสียไปและเกิดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างรุนแรง

การแลกเปลี่ยนตัวประกันในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหวังว่าจะเป็นก้าวสำคัญในการลดความรุนแรงและนำไปสู่การหยุดยิงอย่างถาวร ข้อตกลงดังกล่าวเป็นผลจากการเจรจาที่มีทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงการประสานงานจากหลายประเทศที่เป็นตัวกลางในการเจรจา

ทางด้านกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า นักโทษปาเลสไตน์จำนวน 200 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 120 คนที่ถูกจำคุกตลอดชีวิตและอีก 80 คนที่ถูกคุมขังในระยะยาว จะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ โดยการปล่อยตัวครั้งนี้ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่สำคัญ ซึ่งนักโทษบางคนที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นนักโทษที่ถูกจำคุกในคดีความมั่นคงและความรุนแรงในเขตแดนของอิสราเอล

ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนตัวประกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับใช้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยในการแลกเปลี่ยนครั้งแรก กลุ่มฮามาสได้ปล่อยพลเมืองอิสราเอล 3 คนแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ 90 คน ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้เป็นสัญญาณของความพยายามที่จะหาทางออกสำหรับสถานการณ์ที่ยืดเยื้อ และหวังว่าจะสามารถนำไปสู่การเจรจาในประเด็นอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของภูมิภาค

ในระหว่างการดำเนินการแลกเปลี่ยนตัวประกันในวันนี้ มีการรวมตัวของชาวปาเลสไตน์จำนวนมากที่จัตุรัสในเมืองกาซาซิตี โดยมีการตั้งแท่นโพเดียมและทีมงานจากกลุ่มฮามาสจัดเตรียมพิธีเพื่อประกาศการปล่อยตัวทหารหญิงอิสราเอล ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่และสื่อมวลชนที่มารายงานข่าว

การแลกเปลี่ยนตัวประกันในครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถสร้างความเชื่อมั่นและหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการพูดคุยเกี่ยวกับการคืนสถานะและสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ที่อิสราเอลยึดครอง รวมถึงการจัดตั้งกลไกความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายในอนาคตเพื่อความสงบสุขในภูมิภาค

ขณะนี้ทั้งอิสราเอลและฮามาสยังคงมีการเจรจาเพื่อขยายข้อตกลงหยุดยิงและหาวิธีลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน โดยมีความหวังว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย