วันที่ 25 มกราคม 2568 – รายงานคุณภาพอากาศจาก เว็บไซต์ IQAir ณ เวลา 08.46 น. ระบุว่า กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 5 เมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลก โดยค่าฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ พุ่งสูงถึงระดับสีแดง ซึ่งหมายถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทุกคนอย่างรุนแรง พร้อมคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และหากจำเป็นต้องออกจากบ้านควรสวม หน้ากากป้องกัน PM2.5 เพื่อความปลอดภัย ขณะที่สถานการณ์ใน ระยอง และ บุรีรัมย์ ก็ไม่น่าไว้วางใจ

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานว่า ค่าเฉลี่ย PM2.5 ในกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.00 น. อยู่ที่ 73.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งเกินมาตรฐานความปลอดภัย (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่

  1. เขตหนองจอก – 93.6 มคก./ลบ.ม.
  2. เขตมีนบุรี – 91.8 มคก./ลบ.ม.
  3. เขตคันนายาว – 91.5 มคก./ลบ.ม.
  4. เขตบางนา – 89.9 มคก./ลบ.ม.
  5. เขตคลองสามวา – 89.7 มคก./ลบ.ม.
  6. เขตหนองแขม – 87.6 มคก./ลบ.ม.
  7. เขตบึงกุ่ม – 87.6 มคก./ลบ.ม.
  8. เขตสะพานสูง – 83.7 มคก./ลบ.ม.
  9. เขตลาดกระบัง – 83.7 มคก./ลบ.ม.
  10. เขตวังทองหลาง – 81.5 มคก./ลบ.ม.

พื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ

ในระดับประเทศ 10 อันดับพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสูงสุดในไทย ได้แก่

  1. อ.เมือง จังหวัดนครปฐม
  2. อ.ปลวกแดง จังหวัดระยอง
  3. อ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
  4. อ.เมือง จังหวัดระยอง
  5. อ.เมือง จังหวัดสระบุรี
  6. อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
  7. อ.เมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
  8. อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา
  9. อ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
  10. กรุงเทพมหานคร

ผลกระทบต่อสุขภาพและคำแนะนำในการป้องกัน

ระดับมลพิษทางอากาศและผลกระทบต่อสุขภาพ

  • สีแดง (151-200 AQI): มีผลกระทบต่อสุขภาพทุกคน
    • คำแนะนำ: งดกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หากจำเป็นควรสวม หน้ากากป้องกัน PM2.5 และเปิดเครื่องฟอกอากาศในบ้าน
  • สีส้ม (101-150 AQI): มีผลกระทบต่อกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
    • คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น และลดระยะเวลาการอยู่นอกบ้าน

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับประชาชน

  1. ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ เช่น IQAir, Air4Thai
  2. ป้องกันสุขภาพ: ใช้หน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่มีประสิทธิภาพกรอง PM2.5
  3. ดูแลกลุ่มเสี่ยง: ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูง
  4. เปิดเครื่องฟอกอากาศในอาคาร: โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนอยู่อาศัยหนาแน่น
  5. ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว: หันมาใช้ขนส่งสาธารณะ หรือเดินทางเท่าที่จำเป็นเพื่อลดการปล่อยมลพิษ

ไทยติดอันดับ 8 เมืองมลพิษโลก

นอกจากกรุงเทพฯ ที่เผชิญสถานการณ์ฝุ่นพิษหนัก ไทยยังถูกจัดอันดับเป็น ประเทศที่มีเมืองมลพิษสูงอันดับ 8 ของโลก โดยอันดับ 1 คือ เมืองธากา ประเทศบังกลาเทศ ทั้งนี้ปัญหามลพิษทางอากาศถือเป็นภัยร้ายที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนจากทุกภาคส่วน


สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในไทยยังคงเป็นปัญหาร้ายแรงที่กระทบสุขภาพประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ค่าฝุ่นอยู่ในระดับอันตราย ขอให้ประชาชนร่วมมือกันป้องกันสุขภาพ และติดตามข้อมูลสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว

ที่มา: IQAir, ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร thairath