หลังจากการเจรจาอันยืดเยื้อในที่สุด ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลก็ประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะเป็นก้าวสำคัญที่น่ายินดี แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าควรเกิดขึ้นนานแล้ว โดยตลอดปีที่ผ่านมา มีการเสนอแนวทางที่คล้ายกันหลายฉบับแต่ต้องล้มเหลวเนื่องจากความขัดแย้งในรายละเอียดระหว่างทั้งสองฝ่าย

ผลกระทบจากสงครามในฉนวนกาซา

จุดเริ่มต้นของการสู้รบครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 หลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนชาวอิสราเอล การตอบโต้จากอิสราเอลนำไปสู่การโจมตีครั้งใหญ่ในฉนวนกาซา ส่งผลให้พื้นที่พังราบเป็นหน้ากลอง และประชาชนกว่า 2 ล้านคนต้องพลัดถิ่น

กระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาซึ่งบริหารโดยฮามาสรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเกือบ 50,000 คน แต่การศึกษาล่าสุดในวารสาร แลนเซต (Lancet) ชี้ว่าตัวเลขอาจต่ำกว่าความเป็นจริง

ความท้าทายหลังการหยุดยิง

แม้ข้อตกลงหยุดยิงจะหยุดความรุนแรงในปัจจุบันได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายกังวลว่าสงครามอาจปะทุขึ้นอีกหลังช่วงเวลาหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน นักการทูตระดับสูงชาติตะวันตกย้ำว่าความสำคัญอยู่ที่การรักษาข้อตกลงให้ยั่งยืน

ผลกระทบทางยุทธศาสตร์และการเมือง

สงครามครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อฉนวนกาซา แต่ยังสร้างความสั่นสะเทือนทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง กลุ่มฮามาสแม้จะยังคงมีอำนาจต่อสู้ แต่ศักยภาพกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเผชิญข้อกล่าวหาจากศาลอาญาระหว่างประเทศในเรื่องอาชญากรรมสงคราม

การแทรกแซงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ทำให้อิหร่านที่สนับสนุนเครือข่าย “อักษะแห่งการต่อต้าน” ต้องประสบความสูญเสียในเครือข่ายพันธมิตร

ความหวังและความไม่แน่นอนในอนาคต

ข้อตกลงหยุดยิงนี้ช่วยหยุดความสูญเสียชั่วคราว รวมถึงเปิดทางให้การปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลและผู้ต้องขังปาเลสไตน์ได้กลับสู่ครอบครัว แต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่สั่งสมมายาวนานกว่าศตวรรษยังคงไม่ได้รับการแก้ไข

สันติภาพที่ยังอีกยาวไกล

แม้ข้อตกลงครั้งนี้จะถือเป็นความสำเร็จ แต่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างความไว้วางใจและสันติภาพที่แท้จริงในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความแตกแยกนี้

ที่มา bbc-thai