ภูมิธรรมสั่งปราบยาเสพติดเข้มข้น รุกคืบชายแดน ขอความร่วมมือพม่า
วันที่โพสต์: 30 พฤศจิกายน 2567 15:22:14 การดู 29 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ภูมิธรรม สั่งการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือจากรัฐบาลพม่าในการจัดการปัญหาชายแดน
30 พ.ย. 67 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีการรายงานสถานการณ์น้ำและความคืบหน้าของพื้นที่บุกรุกลำน้ำปิงในเขตเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 5 ลดลงไปจากเดิม
ในระหว่างการเยี่ยมชม นายภูมิธรรมได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่ โดยเน้นย้ำถึงการใช้มาตรการเชิงรุกในการจัดการปัญหานี้ในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายภูมิธรรมได้พูดถึงสถานการณ์การลักลอบขนส่งยาเสพติดข้ามชายแดน โดยเฉพาะการขนส่งจากประเทศพม่า ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญ โดยระบุว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชนและความมั่นคงของประเทศ และเป็นภัยร้ายแรงที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง
นายภูมิธรรมกล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดเป็นอันดับหนึ่ง โดยมอบหมายให้กองทัพและตำรวจทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ได้ผล ซึ่งการตั้งมาตรการซีลชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือเป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญในการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด และเป็นการส่งสัญญาณให้กับกลุ่มผู้ลักลอบค้ายาเสพติดว่า จะไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในการดำเนินการ
นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังได้พูดถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการขอความร่วมมือจากรัฐบาลพม่าในการดูแลพื้นที่ที่มีแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ซึ่งการประสานงานในเรื่องนี้อาจมีความยากลำบากเนื่องจากความขัดแย้งภายในประเทศพม่า แต่รัฐบาลไทยยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของตน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า การดำเนินการในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนไทยต้องเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการปฏิบัติงาน ซึ่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนจะมีผลดีต่อความปลอดภัยของประเทศและการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งเป็นรายได้หลักในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
นายภูมิธรรมยังยืนยันว่า การปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และไม่ใช่การตั้งรับ แต่เป็นการรุกที่ชายแดน เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดข้ามเข้าไปในประเทศไทย และจะไม่ยอมให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือความปลอดภัยของประชาชน
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในการใช้เทคโนโลยีทันสมัยในกระบวนการปราบปราม โดยจะใช้ระบบการติดตามตรวจสอบและการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในที่สุด นายภูมิธรรมได้เน้นย้ำว่าปัญหายาเสพติดเป็นภัยร้ายแรงที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยรัฐบาลไทยจะไม่ยอมให้เกิดการข้ามเส้นในการจัดการกับปัญหานี้ และจะทำทุกวิถีทางในการสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงขอความร่วมมือจากรัฐบาลพม่าในการปฏิบัติงานร่วมกันในการกำจัดแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย