Infinix HOT 50 4G มือถือรุ่นประหยัด 5300 บาท
วันที่โพสต์: 2 ตุลาคม 2567 04:40:47 การดู 78 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ต้นเดือนนี้ Infinix ได้เปิดตัว Hot 50 รุ่น 5G พร้อมสเปกแรงที่รองรับเครือข่าย 5G และในขณะนี้ Infinix ได้นำเสนอรุ่นที่ราคาประหยัดกว่า ซึ่งคือ Infinix Hot 50 4G แม้ว่าดีไซน์ภายนอกจะเหมือนกับรุ่น 5G แต่สเปกภายในบางอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะกับการใช้งานในระดับ 4G
ชิปเซ็ตและประสิทธิภาพ
Infinix Hot 50 4G ใช้ชิปเซ็ต Helio G100 แทนที่ Dimensity 6300 ในรุ่น 5G ซึ่งการเชื่อมต่อจำกัดอยู่ที่เครือข่าย 4G อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการทำงานของทั้งสองรุ่นยังคงใกล้เคียงกัน เนื่องจากชิปเซ็ตทั้งสองผลิตจากกระบวนการ 6 นาโนเมตรและมีการใช้ซีพียูและจีพียูในแบบเดียวกัน Hot 50 4G มาพร้อมกับ RAM ขนาด 6GB หรือ 8GB (LPDDR4X) และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB หรือ 256GB ซึ่งสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 2TB ผ่าน microSD การ์ด
หน้าจอและการแสดงผล
หนึ่งในจุดเด่นของรุ่น 4G คือหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 6.78 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ FHD+ ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากรุ่น 5G ที่มีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้วความละเอียด HD+ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอแบบ IPS LCD ที่รองรับอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz และมีฟีเจอร์ Always On Display โดยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเพื่อความสะดวกในการปลดล็อก
กล้องถ่ายรูป
สำหรับสายถ่ายภาพ Hot 50 4G มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล โดยใช้เลนส์ที่มีค่ารูรับแสงกว้างขึ้นที่ f/1.6 ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น แม้ว่าขนาดเซ็นเซอร์จะเล็กกว่า (1/2.76”) เมื่อเทียบกับรุ่น 5G (f/1.8, 1/2.0”) แต่ก็ยังคงรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1440p ที่ 30fps หรือ 1080p สูงสุดที่ 60fps ส่วนกล้องหน้าให้ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับรุ่น 5G
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh และรองรับการชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ต USB-C โดย Infinix ยืนยันว่าแบตเตอรี่ของ Hot 50 4G สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ปี (ผ่านการชาร์จรายวัน 1,600 ครั้ง) โดยยังคงความจุแบตเตอรี่ไว้ที่อย่างน้อย 80% นอกจากนี้ยังเคลมว่าสามารถเล่นเกม FreeFire ได้นานเกือบ 9 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว พร้อมรองรับการเล่นเกมที่อัตรา 90fps ด้วย 120Hz touch sampling rate สำหรับประสบการณ์การเล่นที่ลื่นไหล
การเชื่อมต่อและฟีเจอร์เพิ่มเติม
Hot 50 4G มาพร้อมความสามารถในการกันฝุ่นและละอองน้ำ แต่ Infinix ไม่ได้ระบุ IP rating อย่างชัดเจน (ในขณะที่รุ่น 5G ได้รับการรับรอง IP54) นอกจากนี้ยังมีพอร์ต 3.5mm สำหรับหูฟังพร้อมวิทยุ FM ในตัว อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi 5 (ac), Bluetooth และ NFC ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีในรุ่น 5G
ราคาและการวางจำหน่าย
Infinix Hot 50 4G มีให้เลือกหลายสี เช่น Sleek Black, Sage Green และ Titanium Gray และได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ โดยร้านค้าในยูเครนตั้งราคาไว้ที่ 6,800 UAH ซึ่งคิดเป็นประมาณ 165 ดอลลาร์สหรัฐ / 150 ยูโร / 13,850 รูปี