iQOO เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในกลุ่ม Z-series โดยจะมีทั้งรุ่น iQOO Z10 และ Z10 Turbo ในเดือนหน้าในประเทศจีน ทั้งสองรุ่นคาดว่าจะมีการอัปเกรดที่สำคัญในหลายๆ ด้าน โดยรุ่นมาตรฐาน Z10 จะใช้ชิปเซ็ต Dimensity 8400 ส่วนรุ่น Z10 Turbo จะได้รับการอัปเกรดไปใช้ชิป Snapdragon 8s Elite ซึ่งคาดว่าจะสามารถแข่งขันได้ดีกับสมาร์ทโฟนจากค่ายอื่น ๆ เช่น Redmi Turbo 4 และ Turbo 4 Pro ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็จะใช้ชิปเซ็ตเดียวกัน

การเปิดตัวครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย iQOO มุ่งมั่นที่จะนำเสนอสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ทั้งนี้ข้อมูลที่หลุดออกมาใหม่จาก Digital Chat Station แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ได้เปิดเผยสเปกหลักของ iQOO Z10 Turbo รวมถึงหน้าจอ กล้อง ชิปเซ็ต แบตเตอรี่ และความสามารถในการชาร์จ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า iQOO Z10 Turbo จะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจมากในตลาดปัจจุบัน

iQOO Z10 Turbo จะมาพร้อมกับแผงหน้าจอ OLED LTPS ขนาด 6.78 นิ้ว ซึ่งรองรับความละเอียด 1.5K โดยหน้าจอจะมีสีสันคมชัดและรายละเอียดที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและการดูเนื้อหาภาพยนตร์หรือวิดีโอ นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลที่มีความสว่างสูง ซึ่งช่วยให้การใช้งานในที่แสงจ้าไม่เป็นปัญหา

ในส่วนของกล้อง Z10 Turbo จะมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ที่มีรายละเอียดสูง พร้อมกล้องหลังคู่ที่ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้องรองความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชันในการถ่ายภาพมุมกว้างหรือโหมดถ่ายภาพมาโคร

ภายในตัวเครื่อง iQOO Z10 Turbo จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8s Elite ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่รวดเร็วและประหยัดพลังงาน ทำให้สมาร์ทโฟนมีประสิทธิภาพที่สูงในการใช้งานทั้งในงานทั่วไปและการเล่นเกมหนัก ๆ โดยที่ไม่ทำให้เครื่องร้อนเกินไป นอกจากนี้ Z10 Turbo ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และ 12GB ให้เลือกใช้ ซึ่งจะทำให้การใช้งานแบบมัลติทาสก์เป็นไปได้อย่างราบรื่น

หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของ iQOO Z10 Turbo คือแบตเตอรี่ขนาด 7,600mAh ซึ่งถือว่าใหญ่มากสำหรับสมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้ โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้รองรับการชาร์จเร็ว 90W ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไปถึง 100% ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จย้อนกลับ (reverse charging) ซึ่งสามารถใช้เพื่อชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น หูฟังไร้สาย หรือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ได้อีกด้วย

สำหรับการออกแบบ iQOO Z10 Turbo จะมีกรอบตัวเครื่องทำจากพลาสติก ซึ่งช่วยลดต้นทุนและทำให้เครื่องมีน้ำหนักเบาและทนทาน โดยรุ่นนี้จะมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือในหน้าจอแบบโฟกัสสั้น ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกในการปลดล็อคเครื่อง นอกจากนี้ iQOO Z10 Turbo ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจในเรื่องของการเชื่อมต่อ เช่น รองรับ 5G, Wi-Fi 6, และ Bluetooth 5.2 ซึ่งจะทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ รวดเร็วและเสถียรมากยิ่งขึ้น

ตามรายงานล่าสุดยังมีการคาดการณ์ว่า iQOO Z10 Turbo จะมีการนำเสนอในชื่อใหม่ว่า Vivo Y300 GT ซึ่งอาจจะมีสเปกที่เหมือนกันกับ iQOO Z10 Turbo ที่กล่าวถึงข้างต้น การตั้งชื่อใหม่อาจจะเกิดขึ้นในตลาดต่างประเทศหรือตลาดเฉพาะ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ Vivo และ iQOO ใช้ในการขยายตลาดและเข้าถึงผู้ใช้ในประเทศต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยการอัปเกรดทั้งในเรื่องของชิปเซ็ต, การถ่ายภาพ, และประสิทธิภาพการชาร์จ ทำให้ iQOO Z10 และ Z10 Turbo คาดว่าจะเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางในปี 2025 โดยเฉพาะ iQOO Z10 Turbo ที่คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงสุดและตอบโจทย์การใช้งานทั้งในด้านการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปอย่างดีเยี่ยม

ที่มา gizmochina