Samsung ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI-RAN (Artificial Intelligence in Radio Access Networks) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการใช้งานของเครือข่ายมือถือ โดยจะใช้แพลตฟอร์มการคำนวณที่เร่งความเร็วจาก Nvidia ร่วมกับโซลูชันการทำเสมือนจริง (virtualized solutions) ของ Samsung เพื่อสร้างการปรับแต่งเครือข่ายที่สามารถทำงานได้ดีที่สุดในหลากหลายสภาพแวดล้อม

vRAN หรือ virtual Radio Access Network จะถูกนำมารวมกับเทคโนโลยีการคำนวณของ Nvidia ในการปรับสถาปัตยกรรมเครือข่ายสำหรับพื้นที่ที่มีความแตกต่าง เช่น พื้นที่ชนบท พื้นที่ชานเมือง และในเขตเมืองที่หนาแน่น ซึ่งการรวมกันของทั้งสองเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการเครือข่ายมือถือ โดยเฉพาะในยุคของ 5G ที่มีความต้องการที่สูงขึ้น

ในงาน MWC 2025, Samsung ได้แสดงตัวอย่าง vRAN ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Nvidia ซึ่งนำเสนอการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการคำนวณจาก Nvidia และโซลูชันการทำเสมือนจริงของ Samsung ซึ่งเปิดโอกาสให้การใช้งานเครือข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถปรับตัวได้กับทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ที่มีการใช้เครือข่ายอย่างหนาแน่น หรือในพื้นที่ห่างไกลที่ต้องการการเชื่อมต่อที่เสถียร

June Moon, รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาธุรกิจเครือข่ายของ Samsung Electronics, กล่าวว่า "การร่วมมือกับ Nvidia ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ AI-RAN ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของเครือข่ายโทรคมนาคมในอนาคต เรากำลังช่วยผู้ให้บริการให้สามารถปรับใช้ AI ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่าย และสร้างสภาพแวดล้อมที่พร้อมสนับสนุนการใช้งาน AI อย่างเต็มที่"

Ronnie Vasishta, รองประธานอาวุโสฝ่ายโทรคมนาคมของ Nvidia, กล่าวเสริมว่า "การนำ AI-RAN มาใช้งานจริงถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม, โดย AI จะเข้ามาช่วยปรับปรุงการใช้เครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, และยังเปิดโอกาสให้การให้บริการ AI ใหม่ๆ เป็นไปได้ในอนาคต"

การพัฒนานี้จะช่วยขับเคลื่อน 5G และการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น
การร่วมมือระหว่าง Samsung และ Nvidia ในครั้งนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาเครือข่าย 5G โดยเฉพาะในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อของผู้ใช้ในพื้นที่ที่มีการใช้งานเครือข่ายหนาแน่น การสร้างสถาปัตยกรรมที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรจะทำให้เทคโนโลยี 5G สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ โดย AI-RAN จะช่วยในการปรับปรุงการจัดการเครือข่ายและการใช้ทรัพยากรในเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

การปรับตัวในอนาคต
การพัฒนา AI-RAN ยังช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะมาถึงในอนาคต เช่น 5G Advanced และ 6G ที่จะมาพร้อมกับความต้องการด้านการเชื่อมต่อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการรวมเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยจะทำให้การขยายเครือข่ายและการปรับปรุงประสิทธิภาพในระดับที่สูงขึ้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผลมากขึ้น

การร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ไม่เพียงแค่ช่วยให้เครือข่ายมือถือในปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น แต่ยังเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งาน AI และการพัฒนาเครือข่ายในอนาคต, โดยที่การเชื่อมต่อของผู้ใช้งานจะมีความเร็วและเสถียรภาพมากขึ้น